ศรีสะเกษ - ศึกเลือกตั้งซ่อมส.ส.ศรีสะเกษเขต 5 คึกคัก 2 ผู้สมัคร ลงพื้นที่หาเสียงไม่มีพัก เผย “ภูริกา” ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยชูนโยบายสานต่อจากพ่อ หนุนรัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายสู่ท้องถิ่น ด้านจินณ์ตวรรณ ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย ชูนโยบาย ผสานรุ่นเก่า เชื่อมโยงรุ่นใหม่ เข้าใจทุกเจเนอเรชัน
บรรยากาศการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 5 จังหวัดศรีสะเกษ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ กำลังคึกคักอย่างมาก เมื่อสองทายาทการเมืองคนรุ่นใหม่อย่าง นางสาวภูริกา สมหมาย หรือกุ้ง หมายเลข 1 ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือ “อีฟ” หมายเลข 2 ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ต่างลงพื้นที่ลุยหาเสียงแบบไม่มีพัก หวังคว้าใจชาวบ้านในศึกสำคัญครั้งนี้
นางสาวภูริกา สมหมาย ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย เป็นลูกสาวของอดีต ส.ส.อมรเทพ สมหมาย อดีต ส.ส.ขวัญใจชาวศรีสะเกษ ที่ได้รับความรักจากประชาชนในพื้นที่มายาวนาน สานต่ออุดมการณ์จากบิดา พร้อมประกาศขอเข้าไปเป็นตัวแทนเสียงของประชาชน เพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายสู่พื้นที่
นางสาวภูริกา สมหมาย กล่าวว่า อำเภอขุนหาญและภูสิงห์มีศักยภาพสูง ทั้งด้านการเกษตร การค้า การท่องเที่ยว โดยเฉพาะกระเทียม หัวหอม มันสำปะหลัง ทุเรียนภูเขาไฟ และผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่ต้องการการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐ หากได้รับการผลักดันอย่างเป็นระบบ จะสร้างรายได้ ลดหนี้สิน และยกระดับคุณภาพชีวิตชาวบ้านได้แน่นอน หากไม่มีผู้แทนที่เป็น “คนของรัฐบาล” การผลักดันนโยบายจะไม่สามารถเดินหน้าได้เต็มที่ อย่าให้พื้นที่ของเราต้องเสียโอกาส พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนมั่นใจในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยขอเวลาทำงานต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน อีกหนึ่งผู้สมัครคนสำคัญ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือ “อีฟ” หมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ทายาทของตระกูลการเมืองใหญ่ในภาคอีสาน ก็เดินหน้าลงพื้นที่แบบเข้มข้นเช่นกัน ใช้กลยุทธ์เข้าถึงทุกหมู่บ้าน พูดคุยกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิด พร้อมชูสโลแกน “ทันยุค ทันใจ เข้าใจชาวบ้าน ผสานรุ่นเก่า เชื่อมโยงรุ่นใหม่ เข้าใจทุกเจเนอเรชัน
นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล กล่าวว่า ประชาชนทุกวันนี้เผชิญปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ สวนทางค่าปุ๋ยและต้นทุนการเกษตรที่พุ่งสูง ทุกคนล้วนมีความทุกข์สะสม การพูดคุยกับพี่น้องในแต่ละจุดเหมือนเป็นการรับฟังความเดือดร้อนและร่วมกันหาทางออก ตนเน้นความสำคัญของการฟังเสียงคนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้อาวุโสในพื้นที่ ซึ่งมีประสบการณ์การทำเกษตรกรรม พร้อมให้คำแนะนำดีๆ เสมอ หากได้รับโอกาสจะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านอย่างเต็มกำลัง
ทั้งสองผู้สมัครต่างมีแนวนโยบายที่เน้นการพัฒนาท้องถิ่น พยายามสื่อสารกับประชาชนด้วยความจริงใจ และแข่งขันกันด้วยความหวังดีต่อพื้นที่ โดยประชาชนในพื้นที่เขต 5 ศรีสะเกษต่างตื่นตัวและจับตามองศึกเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
