xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)จนท.บุกตรวจทรัพย์สินวัดท่าหลวง ส่องบัญชีเงินฝากยันวัตถุมงคล หลังเจ้าอาวาสฯ-จจ.พิจิตร ต้องสึกเซ่นสัมพันธ์ “สีกากอล์ฟ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิจิตร - จนท.ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง ป.ป.ท.เขต ป.ป.ป. บุกตรวจทรัพย์สินวัดท่าหลวง ส่องเงินในบัญชีวัดตั้งแต่ปี 58-ปัจจุบัน รวมถึงรายได้จากอีเวนต์งานแข่งเรือ งานหลวงพ่อเพชร เงินทำบุญ ยันกรุวัตถุมงคล หลังอดีตเจ้าอาวาสฯ-เจ้าคณะฯ พิจิตรต้องแหกพรรษาลาสิกขาเซ่นสัมพันธ์ฉาว “สีกากอล์ฟ” เบื้องต้นไม่พบเอกสารปี 62


วันนี้ (16 ก.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง ป.ป.ท.เขต 6 ป.ป.ป. ได้ร่วมกันเข้าตรวจทรัพย์สิน บัญชีเงินฝากธนาคาร ทรัพย์สินอื่นๆ ของวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมืองพิจิตร หลังจากเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ที่ตกเป็นข่าวพัวพันกับสีกากอล์ฟ จนต้องสึกจากการเป็นพระเมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ซึ่งทำให้ตำแหน่งต่างๆ หมดสภาพตามไปด้วย

โดยไวยาวัจกร ซึ่งปกติจะมี 3 คน แต่วันนี้มีเพียง 2 คน คือ นายพลกิต มีศรี, นายอู๋ ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจบัญชีทรัพย์สินของวัด ส่วนนายพัฒน์ แจ้งว่าป่วยไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย

เบื้องต้นพบว่าเงินวัดท่าหลวงส่วนใหญ่ฝากไว้ที่ธนาคารกรุงไทย และมีเงินฝากประจำในนามมูลนิธิพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (ไป๋ นาควิจิตร) ที่นำดอกผลมาใช้เพื่อเป็นทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรที่โรงเรียนหลวงพ่อเพชร


นายพลกิต มีศรี ไวยาวัจกรวัดท่าหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าเข้ารับตำแหน่งในช่วงระหว่างปี 58/59 ซึ่งตอนนั้นมี พระราชวิจิตรโมลี หรือ หลวงปู่บุญมี เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง หลังจากท่านได้มรณภาพจากไปเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2563 ก็ได้มีการแต่งตั้ง พระเทพวัชรสิทธิเมธี ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จนถึงเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2568 ที่ได้สึกจากการเป็นพระไปแล้ว มีบัญชีที่นำเข้ารับการตรวจตั้งแต่ปี 58 จนถึงปัจจุบัน

โดยนายพลกิต พร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานที่เป็นหญิงอีก 2 รายก็ยืนยันว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร มาตรวจทุกปี รวมถึงก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.พิจิตร สตง.พิจิตร และส่วนกลางก็เคยมาตรวจอยู่เป็นประจำ ซึ่งก็ไม่พบความผิดหรือจุดบกพร่องแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ตำรวจสอบสวนกลาง ป.ป.ท.เขต 6 ป.ป.ป.ที่เข้าตรวจวันนี้พบข้อสงสัย คือรายการบัญชีของปี 62 ที่หายไป แต่ก็ได้ชี้แจงไปว่าช่วงนั้น พระมหาวรพล ซึ่งเป็นพระเลขาฯ และสมุห์บัญชีใหม่ของวัดท่าหลวง ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตในปีนั้น จึงทำให้หาเอกสารของปี 62 ไม่เจอ แต่ในช่วงนั้นวัดท่าหลวงก็ไม่ได้มีรายรับหรือทรัพย์สินใดๆ มากขึ้นจนเป็นที่น่าผิดสังเกต


ส่วนเงินสดจากตู้บริจาคภายในพระอุโบสถวัดท่าหลวง ซึ่งจะมีการเปิดกุญแจไขตู้นับเงินทุกๆ 15 วัน ก็จะได้เงินสดเพียงแค่หลักแสนต้นๆ เท่านั้น เฉลี่ยเงินทำบุญ-เงินจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียน ก็จะได้เพียงวันละ 5,000-10,000 บาท ขณะที่งานอีเวนต์หรืองานเทศกาลต่างๆ เช่น งานแข่งเรือต้นเดือนกันยายน งานนมัสการหลวงพ่อเพชร 21-31 มกราคม ของทุกปี รายรับ-รายจ่าย ซึ่งเป็นเงินอุดหนุนจากจังหวัดพิจิตร อปท. อบจ.พิจิตร ก็จะถูกควบคุมตรวจสอบโดยเสมียนตรา-คลังจังหวัดพิจิตร เป็นปกติอยู่แล้ว

ขณะที่สมุดเงินฝาก 30 เล่มของวัดท่าหลวง เจ้าหน้าที่ของวัดกำลังนำสมุดเงินฝากทั้งหมดไปให้ธนาคารเพื่อปรับยอดเงินให้เป็นปัจจุบันเพื่อเข้ารับการตรวจ ขณะนี้ยังไม่สามารถทราบได้ว่ามีเงินสดคงเหลือในบัญชีแต่ละเล่ม-ยอดรวมเป็นเท่าไหร่ แต่คงจะทราบได้ภายในวันเดียวกันนี้


สำหรับเงิน มูลนิธิพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (ไป๋ นาควิจิตร) ซึ่งฝากไว้ใช้ได้แค่เพียงดอกผลอยู่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูพิจิตร 5 ล้านบาท, ธนาคารกรุงไทย จำนวนแสนกว่าบาท, ธนาคารกสิกรไทยในสมัยของ พระราชวิจิตรโมลี หรือ หลวงปู่บุญมี อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง นั้นก็มีเพียงแค่หลักพัน แต่บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวมานานแล้ว ซึ่งตำรวจสอบสวนกลาง ป.ป.ท.เขต 6 ป.ป.ป.ก็จะได้ตรวจสอบโดยละเอียดต่อไป รวมทั้งจะมีการตรวจสอบพระบูชาหรือวัตถุมงคลที่มีมูลค่า รวมถึงบัญชีรายรับ-รายจ่ายของ มจร.พิจิตร ที่อดีตเจ้าอาวาสที่สึกไปแล้วดูแลบริหารจัดการต่อไปด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น