ศาลปกครองสูงสุดเพิกถอนคำสั่งไล่ “ชัยวัฒน์” ออก ชี้ไม่มีมูลทุจริตอันเป็นเหตุลงโทษร้ายแรง

เพชรบุรี - ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืน เพิกถอนคำสั่งกระทรวงทรัพย์ฯ ปลด “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” พ้นราชการ ชี้ ป.ป.ท. ไม่มีอำนาจชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงในกรณีไม่เข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่

วันนี้ ( 16 ก.ค.) ศาลปกครองเพชรบุรี นัดฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2117/2568 และหมายเลขแดงที่ อ.587/2568 กรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ปลดตนออกจากราชการ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคำสั่งกระทรวงฯ ที่ 132/2564 ลงวันที่ 2 เมษายน 2564 ซึ่งอ้างอิงมติของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ชี้มูลความผิดจากปฏิบัติการ “ยุทธการตะนาวศรี” ปี 2554 อพยพชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ต่อมา ศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว และเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2565 มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งปลดออกจากราชการ ส่งผลให้นายชัยวัฒน์กลับเข้ารับราชการในระหว่างการพิจารณา

อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกฟ้องคดี ได้แก่ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษา แต่ล่าสุด ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา “แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น” โดยระบุให้ เพิกถอนคำสั่งปลดออกจากราชการ และให้มีผลย้อนหลังถึงวันที่มีคำสั่งดังกล่าว พร้อมยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และยกคำขออื่นทั้งหมด

ศาลฯ ระบุชัดว่า มติของ ป.ป.ท. ที่ชี้มูลความผิดทางวินัยสามารถใช้เป็นสำนวนสอบสวนได้ เฉพาะกรณีทุจริตต่อหน้าที่ เท่านั้น แต่ในกรณีของนายชัยวัฒน์ เป็นเพียงการไม่ปฏิบัติตามคู่มือและแนวทางตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ ปี 2504 ซึ่ง ไม่เข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551

ศาลชี้ว่า การดำเนินการของปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ ซึ่งนำมติ ป.ป.ท. มาใช้โดยไม่แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย จึงเป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ตลอดการพิจารณาคดี ไม่มีตัวแทนจากกระทรวงทรัพยากรฯ กรมอุทยานฯ หรือ ป.ป.ท. เดินทางมาแสดงตนหรือแถลงการณ์เพิ่มเติมใด ๆ ต่อศาล