ศรีสะเกษ - แม่พาลูกสาววัย 8 ขวบร้องมูลนิธิปวีณาฯ ถูกเจ้าอาวาสวัดดัง อ.ขุขันธ์ ศรีสะเกษ ล่อลวงไปทำอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ ขณะเจ้าอาวาสถูกกล่าวหายันไม่สึกหรือออกจากวัด มั่นใจไม่ได้กระทำผิดและปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ กม. อ้างถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายตรงข้ามและผู้มีอคติ เหตุได้เป็นเจ้าอาวาสอายุเพียง 35 ปี ถูกร้องเรียนโดนพระผู้ใหญ่ตั้ง กก.สอบมาแล้วกว่า 10 เรื่อง
วันนี้ (16 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีได้มีแม่พาลูกสาววัย 8 ขวบ ป.3 เดินทางจาก จ.ศรีสะเกษ ร้องทุกข์ “มูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี" หลัง ลูกสาวถูกเจ้าอาวาสวัดหนึ่งใน ต.ปราสาท อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ล่อลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ กระทำอนาจารในห้องน้ำวัดที่อยู่ข้างโรงเรียนนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลปราสาท อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้กับเจ้าอาวาสวัดที่ถูกกล่าวหา อายุ 35 ปี ซึ่งจำพรรษามานานถึง 14 พรรษา และมาจำพรรษาอยู่วัดนี้ได้ 3 พรรษา จนกระทั่งเจ้าอาวาสรูปเดิมได้มรณภาพลง จึงได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่มีการกระทำอนาจารเด็กตามที่เป็นข่าว และมีผู้ร้องเรียน ปรากฏว่าเจ้าอาวาสรูปดังกล่าวพยายามปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล และบอกว่าให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และยืนยันว่าจะไม่สึก หรือออกจากวัด เพราะมั่นใจว่าไม่มีความผิดในเรื่องนี้แต่อย่างใด
เจ้าอาวาสวัด ได้ให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ตนถูกร้องเรียนเช่นนี้น่าจะมาจากการที่ตนถูกกลั่นแกล้งจากกลุ่มฝั่งตรงข้าม และผู้ที่มีอคติกับตน ด้วยวัยเพียง 35 ปีที่ได้เป็นเจ้าอาวาส และความเหมาะสมในด้านต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกร้องเรียนจนกระทั่งถูกพระผู้ใหญ่ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทั้งในเรื่องของ การใช้วาจาไม่เหมาะสม ต่อคณะสงฆ์ด้วยกัน การพกหนังสติ๊กไปยิงสุนัข ตลอดจนกล่าวหาว่ามีปืนและอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งโดนกล่าวหาทั้งหมด 12 ข้อ โดยมีทั้งเรื่องจริง และไม่เป็นเรื่องจริง
แต่ส่วนเรื่องที่ทำอนาจารนั้น อาตมายังไม่ขอกล่าวถึงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่ขอพูดถึงจุดเชื่อมโยงที่ทำให้โดนร้องเรียนและกลั่นแกล้งเช่นนี้ คือเรื่องชิยการที่อาตมาได้เป็นเจ้าอาวาส และเรื่องเงินของวัด ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้ก็เป็นไปตามที่ชาวบ้านเขาแต่งตั้งให้อาตมาเป็น ส่วนเรื่องเงินของวัดก็มีการนำเข้าออกอย่างชัดเจน และมีบัญชีรายรับรายจ่ายที่สามารถตรวจสอบได้ แต่กลับมีกลุ่มบุคคลที่ไม่ชอบมาใส่ร้าย ซึ่งอาตมาก็ไม่สามารถว่ากล่าวได้เพราะเป็นสิทธิของเขา
“อาตมายืนยันว่าจะไม่ยอมสึก เพราะอาตมาไม่มีความผิดทางศาสนา ส่วนเรื่องร้องเรียนอย่างที่อาตมาบอก คือให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป” เจ้าอาวาสวัดกล่าวยืนยัน