กาญจนบุรี - กรมชลประทานประชุมติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญ "งานจ้างสำรวจ ออกแบบ โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพินตอนบน (ระบบผันน้ำ)" ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีและกาญจนบุรี โดยมีกิจการร่วมค้า SPDBYC JV เป็นผู้ดำเนินงาน คาดการณ์แล้วเสร็จภายใน พ.ย. 68
วันนี้( 15 ก.ค.) นายพิเชษฐ รัตนปราสาทกุล ผู้อำนวยการสำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กรมชลประทาน เป็นประธานการประชุม ณ สำนักงานชลประทานที่ 13 จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยผู้แทนจากบริษัทคู่สัญญา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือ ก่อนลงพื้นที่สำนักงานชลประทานที่ 13 และเขื่อนแม่กลอง เพื่อชี้แจงรายละเอียดโครงการแก่สื่อมวลชน
นายพิเชษฐ เปิดเผยว่า พื้นที่รอยต่อสุพรรณบุรีและกาญจนบุรีประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก แม้จะมีอ่างเก็บน้ำลำตะเพินขนาดกลาง แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ การพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติมในพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยตะเพินตอนบน ซึ่งมีศักยภาพน้ำท่าเฉลี่ย 78.56 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยโครงการนี้จะทำการสำรวจออกแบบระบบผันน้ำเพิ่มเติมจากที่ได้มีการศึกษาอ่างเก็บน้ำตอนบนไปแล้ว
สำหรับแนวทางการออกแบบระบบผันน้ำ จะเน้นการวางท่อเลาะแนวถนนเดิมเป็นหลัก ประกอบด้วยท่อผันน้ำสายหลัก (MP) ยาว 34.9 กม. สามารถส่งน้ำให้พื้นที่ชลประทานได้ 13,500 ไร่, ท่อผันน้ำสายหลักที่ 1 (MP1) ยาว 29.8 กม. ส่งน้ำโดยตรงไปยังพื้นที่เกษตร อ.เลาขวัญ และเติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำห้วยเทียน รวมถึงสระต่างๆ รวมพื้นที่รับประโยชน์ 23,923 ไร่ และท่อผันน้ำสายหลักที่ 2 (MP2) ยาว 20.7 กม. ผันน้ำช่วงฤดูฝนไปยัง อ.ด่านช้าง และ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำห้วยตะเคียนและพุปลาก้าง รวมถึงอ่างเก็บน้ำห้วยทวีปในอนาคต และคลองส่งน้ำเรียบถนน 333 ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 19,690 ไร่
"โครงการนี้จะช่วยเสริมความมั่นคงด้านน้ำให้แก่ประชาชนใน อ.หนองปรือ, อ.เลาขวัญ (กาญจนบุรี) และ อ.ด่านช้าง, อ.หนองหญ้าไซ (สุพรรณบุรี) ทั้งเพื่อการเกษตรและอุปโภคบริโภค" นายพิเชษฐ กล่าว พร้อมระบุว่า ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายวิวรรธน์ เจริญสุขรุ่งเรือง ผู้แทนกิจการร่วมค้าฯ อธิบายเพิ่มเติมว่า ระบบผันน้ำทั้ง 3 สายจะใช้การส่งน้ำด้วยแรงโน้มถ่วง โดยสาย MP จะผันน้ำเฉพาะฤดูฝน ส่วน MP1 จะผันน้ำทั้งฤดูฝนและฤดูแล้งเพื่อช่วยเหลือพื้นที่เกษตรและเติมอ่างเก็บน้ำ ขณะที่ MP2 จะเน้นผันน้ำฤดูฝนไปยังพื้นที่ อ.ด่านช้าง และ อ.หนองหญ้าไซ
ขณะที่นายสรณคมน์ ช่างวิทยาการ ผอ.ส่วนบริหารจัดการน้ำฯ สนง.ชลประทานที่ 13 กล่าวว่า พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน แต่มีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 4 แห่ง ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเติมเต็มน้ำให้กับพื้นที่ อ.เลาขวัญ ที่ประสบภัยแล้งมายาวนาน
นายโอฬาร ทองศรี ผอ.โครงการชลประทานสุพรรณบุรี กล่าวว่า จ.สุพรรณบุรีจะได้รับประโยชน์จากท่อ MP2 ในการเติมน้ำให้อ่างเก็บน้ำพุปลาก้าง และพื้นที่ อ.หนองหญ้าไทร รวมประมาณ 9,000 ไร่ ซึ่งจะสร้างความมั่นคงด้านน้ำในอนาคต
สำหรับอ่างเก็บน้ำลำตะเพินตอนบน ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในพื้นที่รอยต่อ อ.ด่านช้าง (สุพรรณบุรี) และ อ.บ่อพลอย (กาญจนบุรี) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเงียบสงบและสวยงาม มีที่พักหลากหลาย และกิจกรรมทางน้ำไว้บริการนักท่องเที่ยว