สุรินทร์ - คืบหน้าคดีอดีตทหารพรานชกหน้าทหารเขมรในปราสาทตาเมือนธม ผกก.สภ.พนมดงรักเผยตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีอาญา เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ยันปราสาทตาเมือนธมเป็นแผ่นดินไทย ผู้ใดกระทำผิดต้องเคารพกฎหมายไทยและขึ้นศาลไทย
วันนี้ (15 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่งตัวคล้ายทหารพราน 1 คน และแต่งชุดดำธรรมดาอีก 1 คน ไปชกหน้าทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่กำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ก่อนวิ่งหนีเข้ามายังเขตไทย ท่ามกลางความตกใจของนักท่องเที่ยว และทหารที่อยู่ประตูทางเข้าปราสาทสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ทั้งสองคน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.พนมดงรักดำเนินคดี เกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผกก.สภ.พนมดงรัก กล่าวว่า คนที่ทำร้ายทหารกัมพูชาคือ นายสมหมาย อดีตทหารพราน อายุ 60 ปี เป็นชาวจังหวัดนครปฐม และ นายปฐมพงษ์ อายุ 50 ปี เป็นชาวจังหวัดนนทบุรี จากการให้การของบุคคลทั้งสองทราบว่าได้มาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม เมื่อเข้ามาถึงที่เกิดเหตุที่หน้าทางเข้าปราสาทตาเมือนธม ก็ได้พบกับทหารกัมพูชาและได้มีการพูดจากัน สื่อสารกันไม่เข้าใจ ก็เลยเกิดความไม่เข้าใจกัน จึงได้ร่วมกันทำร้ายทหารเขมรนายดังกล่าว โดยชกคนละครั้ง ตามที่ปรากฏในคลิปข่าว เจ้าหน้าที่ทหารไทยที่อยู่จุดนั้นได้เข้าไปห้ามปรามและควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองคนนำส่งที่ สภ.พนมดงรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญา ซึ่งในขั้นตอนการสอบสวนนั้น ล่าสุดได้ให้พนักงานสอบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่ปราสาทตาเมือนธม เพื่อประสานเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อจะเชิญตัวทหารกัมพูชามาให้ปากคำได้หรือไม่ เพื่อให้แพทย์ตัวร่างกายได้หรือไม่ อยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อจะได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งสองคนอีกครั้ง ซึ่งความผิดฐานทำร้ายร่างกาย พนักงานสอบสวนไม่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ ต้องส่งฟ้องที่ศาลแขวงสุรินทร์ต่อไป
ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองคน เมื่อมาพบพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาให้รับทราบต่อไป ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ เพราะจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อนว่าคนเจ็บมากน้อยขนาดไหน จึงจะแจ้งข้อหาที่ชัดเจนได้ ซึ่งวันก่อเหตุเป็นการตั้งข้อหาในเบื้องต้น เนื่องจากมีผู้มาแจ้งคดีอาญา ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและเก็บพยานหลักฐานเพื่อจะสรุปสำนวนที่ชัดเจนว่าจะแจ้งข้อหาความผิดฐานใด ในส่วนผู้ต้องหาทั้งสองคนถือว่าเป็นการมาพบพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อหาได้ เพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป
ทั้งนี้ จะต้องสอบสวนให้แน่ชัด เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการ เพื่อให้รู้ว่าจุดเกิดเหตุปราสาทตาเมือนธมนั้นเป็นผืนแผ่นดินไทย การกระทำผิดไม่ว่าผู้ใดบนผืนแผ่นดินไทย ต้องเคารพกฎหมายและขึ้นศาลไทย ยืนยันว่าตรงนี้คือ ประเทศไทย