xs
xsm
sm
md
lg

ผช.รมต.ประจำกระทรวงทรัพย์ฯ ลงพื้นที่จันทบุรี หารือการจัดการขยะในทะเลอย่างยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





จันทบุรี -
ผช.รมต.ประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จันทบุรี หารือแนวทางจัดการขยะในทะเลอย่างยั่งยืน เน้นบูรณาการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง หนุนสร้าง ศูนย์คัดแยกและกำจัดขยะ ในพื้นที่ชายฝั่งอย่างเหมาะสม

วันนี้ ( 14 ก.ค.) นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประชุมร่วมหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมกระเบนทอง ชั้น 2 ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี เพื่อหารือเกี่ยวกับการหาแนวทางแก้ไขปัญหาขยะทะเล บริเวณชายหาดเจ้าหลาวและพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมา
จากการลงพื้นที่พบว่า ปัญหาขยะทะเลส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศทางทะเล ความสะอาดของชายหาด และภาพลักษณ์ของแหล่งท่องเที่ยว โดยมีข้อมูลระบุว่า ขยะทะเลกว่าร้อยละ 80 มีต้นทางจากกิจกรรมบนบก เช่น ชุมชนชายฝั่ง ร้านค้า โรงแรม ท่าเรือ และการท่องเที่ยวชายหาด

ส่วนอีกประมาณร้อยละ 20 มาจากกิจกรรมในทะเล ได้แก่ การประมง การขนส่ง และการท่องเที่ยวทางทะเล โดยเฉพาะในช่วงเดือน มี.ค.ของทุกปี ที่จะพบขยะทะเลจำนวนมากถูกพัดเข้าสู่ชายฝั่งจากกระแสน้ำและลม ซึ่งบางส่วนเป็นขยะจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยสามารถระบุได้จากฉลากบนบรรจุภัณฑ์พลาสติก


ผลการประชุมได้แบ่งแนวทางการจัดการขยะออกเป็น 3 ระดับ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ไปจนถึงปลายทาง

โดย ต้นทาง เน้นสร้างจิตสำนึก รณรงค์ให้ประชาชนไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำ ลำคลอง หรือทะเล พร้อมส่งเสริมการคัดแยกขยะตั้งแต่ครัวเรือน ร้านค้า โรงแรม และชุมชนชายฝั่ง โดยเสนอของบประมาณเพื่อติดตั้ง “บูมตาข่ายดักขยะ” ตามคลองและทางน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล

กลางทาง เน้นเพิ่มความถี่ในการจัดเก็บขยะที่ถูกพัดมาขึ้นฝั่ง โดยเฉพาะช่วงที่มีกระแสน้ำแรง เสนอให้ใช้เครื่องจักรร่วมกับกำลังอาสาสมัครในพื้นที่

และ ปลายทาง จำเป็นต้องมี “ศูนย์คัดแยกและกำจัดขยะ” ในพื้นที่ชายฝั่งอย่างเหมาะสม เพื่อลดต้นทุนการขนย้ายไปยังอำเภออื่น และรองรับกระบวนการรีไซเคิลหรือแปรรูปขยะให้เกิดมูลค่าเพิ่ม


นายนราพัฒน์ ยังเน้นย้ำในเรื่องการสร้างจิตสำนึกในการคัดแยกขยะและทิ้งให้ถูกที่เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ซึ่งการร่วมมือกัน จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและแหล่งท่องเที่ยวให้สะอาดสวยงามอย่างยั่งยืน และจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ

“ การแก้ไขปัญหาขยะทะเลจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก” นายนราพัฒน์ กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น