xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)เจ้าคณะฯ พิจิตรขึ้นธรรมาสน์ยันบริสุทธิ์-ไม่สึก พร้อมรับการตรวจสอบแต่ไม่โต้ผ่านสื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิจิตร - เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรขึ้นธรรมมาสน์วันเข้าพรรษา ยืนยันความบริสุทธิ์พร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากตำรวจสอบสวนกลาง-สำนักพุทธฯ พร้อมเปิดใจไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ เพราะถ้าพูดไปก็เหมือนเป็นการแก้ตัว-ไม่ยอมจบ


วันเข้าพรรษาท่ามกลางกระแสข่าวพระชั้นผู้ใหญ่โดนพิษสีกากอล์ฟ-ดอกไม้สายบุญ พิฆาตจนต้องสละผ้าเหลือง-ลาสิกขาบทกันระนาว และหนึ่งในพระชั้นผู้ใหญ่ที่ตกอยู่ในกระแสข่าวดังกล่าวนั้น คือ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง อ.เมืองพิจิตร ไม่ปรากฏตัวในพิธีสำคัญทางศาสนาหลายวันที่ผ่านมา จนเกิดกระแสข่าวลือว่าลาสิกขาไปด้วยนั้น

ล่าสุดวันนี้ (11 ก.ค. 68) เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ได้ขึ้นศาลาการเปรียญปฏิบัติกิจของสงฆ์วันเข้าพรรษาท่ามกลางญาติโยมที่มาร่วมทำบุญกันประมาณ 300 คน ซึ่งอาจจะดูโหรงเหรง ด้วยเมื่อช่วงเช้าในเขตเทศบาลเมืองพิจิตร และในบริเวณวัดมีฝนตกโปรยปรายจึงอาจเป็นอุปสรรคของญาติโยมหรือผู้สูงอายุที่จะมาทำบุญ จึงทำให้คนทำบุญไม่แน่นศาลาวัดเหมือนเทศกาลงานบุญใหญ่ที่ผ่านมา

โอกาสนี้ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ว่าหลายวันที่ผ่านมาก็ไม่ได้หลบหน้าหรือหนีหายไปไหน แต่ไปทำงานที่ มจร.พิจิตร ส่วนเรื่องที่กำลังเป็นประเด็นหรือเป็นข่าวอยู่นั้น อาตมาก็คงไม่สามารถที่จะพูดอะไรมากได้ และขอให้เป็นไปตามกระบวนการการตรวจสอบใดๆ ก็ตามก็ยินดี เพราะเมื่อพูดหรือให้สัมภาษณ์สื่อไปก็จะเหมือนเป็นการแก้ตัว ถ้ามีปัญหาอะไรก็จะขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามได้ที่ทนายกิจชัย บุญปู่ ซึ่งเป็นทนายความที่ปรึกษาประจำวัดท่าหลวง

นอกจากนี้ เจ้าคณะจังหวัดพิจิตรยังได้กล่าวในลักษณะน้อยเนื้อต่ำใจที่ถูกสื่อมวลชนบางสำนักรุกล้ำจู่โจมตั้งกล้องถ่ายภาพบรรยากาศบริเวณกุฏิ ซึ่งเป็นที่พักของพระ-เณร ที่น่าจะให้เป็นสถานที่ส่วนตัว รวมถึงก็มีบุกไปที่บ้านของเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งมียายอายุ 99 ปี ทำให้คุณยายและญาติโยมแถวนั้นต่างตื่นตระหนกตกใจ ซึ่งถ้าคุณยายเป็นอะไรนักข่าวจะรับผิดชอบไหม จึงอยากจะขอวิงวอนสื่อทำงานทำข่าวก็อย่าได้ล้ำเส้นหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น

ด้านนายกิจชัย บุญปู่ ซึ่งเป็นทนายความที่ปรึกษาประจำวัดท่าหลวง ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ ได้กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวออกมาท่านเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการ ขอให้ท่านที่มีหลักฐานต่างๆ ให้ส่งเข้าตามระบบ หากเกี่ยวกับมหาเถระก็ให้ส่งที่มหาเถระ หากเกี่ยวกับสำนักพุทธฯ ก็ให้ส่งไปที่สำนักพุทธฯ แห่งชาติ การเสนอข่าวกันไปมาเป็นสิ่งที่ทำให้ไม่ได้ข้อเท็จจริง

ส่วนคำถามที่ว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีหรือฟ้องร้องสื่อมวลชนบางสำนักที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคลนั้น ทนายกิจชัยตอบว่า ไม่มีความคิดที่จะฟ้องร้องสื่อมวลชนแต่อย่างใด เพียงแค่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้เคารพในความพอดีและอย่าล่วงเกินสิทธิส่วนบุคคล

นอกจากนี้ยังให้คำแนะนำว่าถ้าอยากได้ข้อมูลใดเกี่ยวกับพระสงฆ์ควรไปหาหรือขอข้อมูลจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งผู้กล่าวหาน่าจะได้ความจริงที่ถูกต้องมากกว่าไปเที่ยวถามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับรูปคดี ดังนั้นจึงอยากจะในสิ่งที่มีหลักฐานเป็นหลักเพราะไม่อยากโต้ตอบพูดกันไปมาผ่านสื่อ ซึ่งถ้าชี้แจงยังไม่จบก็ควรว่ากันได้พยานหลักฐานเป็นหลัก

“เรื่องนี้เป็นเรื่องของคณะสงฆ์จึงควรเข้าสู่กระบวนการให้ฝ่ายตรวจสอบเข้ามาตรวจสอบจะดีกว่า โดยยืนยันว่าเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรพร้อมเข้ารับการตรวจสอบตามกระบวนการในทุกๆ กรณี แต่จะไม่โต้ตอบผ่านสื่อแต่อย่างใด เท่านั้นเอง”
กำลังโหลดความคิดเห็น