xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฏีกาสั่ง “เอกราช”หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ผิดจริยธรรมร้ายแรงโกงเงินสหกรณ์ครูขอนแก่น431ล้านบ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายเอกราช ช่างเหลา (แฟ้มภาพ)
ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ศาลฏีกาสั่ง“เอกราช ช่างเหลา” สส.พรรคกล้าธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังรับคำร้องคดีจาก ปปช.กล่าวหาฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงกรณีถูกศาลขอนแก่นตัดสินจำคุก5ปี93เดือนโกงเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นกว่า 431 ล้านบาท

แฟ้มภาพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันนี้( 9 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมแจ้งให้ที่ประชุมทราบเรื่องที่ไม่ได้บรรจุในระเบียบวาระ เรื่องที่ 1 รับทราบคำสั่งศาลฎีกา เนื่องจากศาลมีคำสั่งรับคำร้องคดีระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และ นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น พรรคกล้าธรรม ผู้คัดค้าน โดยให้นายเอกราช หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตามรัฐธรรมนูญ ปี 60 มาตรา 235 วรรคสาม และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 87 และระเบียบที่ประชุมศาลฏีกา ว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ.2561 ข้อ 12 วรรคสอง โดยจะมีการนัดพิจารณาคดีครั้งแรก วันที่ 29 สิงหาคม 2568 นี้

แฟัมภาพ
สำหรับคำสั่งให้นายเอกราช หยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ในนามพรรคกล้าธรรม ครั้งนี้ เป็นผลมาจากเมื่อเร็วๆนี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช.ได้ยื่นฟ้อง นายเอกราช ช่างเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ขอนแก่น ต่อศาลฏีกา ในข้อหากระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีการทุจริตยักยอกเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เป็นเงินจำนวนถึง 431,826,070.43 บาท แล้ว

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดขอนแก่น มีคำพิพากษาจำคุก นายเอกราช เป็นเวลา 5 ปี 93 เดือน และให้ชดใช้เงินแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ที่ยักยอกไปให้ครบเต็มจำนวน 405 ล้านบาท แต่นายเอกราช ได้รับการประกันตัวออกไป หลังทีมทนายความได้ยื่นขอประกันตัวด้วยเงินสด 3 ล้านบาท โดยมีคำสั่งห้ามเจ้าตัวเดินทางออกนอกประเทศ

แฟัมภาพ
ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้ความผิดนายเอกราช ในข้อหากระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในเวลาต่อมา โดยเห็นชอบตามสำนวนไต่สวนคดีเบื้องต้น ว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยประพฤติตนไม่อยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน และกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 

รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 12 ข้อ 19 ประกอบข้อ 3 วรรคสอง และข้อ 27 วรรคสอง ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น