ราชบุรี - ดีเอสไอสนธิกำลังหลายหน่วยงาน บุกตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้กว่า 500 ไร่ ใน อ.ปากท่อ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าโดยมิชอบ พบเบื้องต้นเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. ออกโดยไม่มีหลักฐานเดิม เตรียมขยายผลตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ และเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง
วันนี้( 8 ก.ค.) นายเทวา จุฬารี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 7 นำทีมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ในท้องที่ตำบลอ่างหิน และตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี รวมเนื้อที่กว่า 500 ไร่ เพื่อทำการเพาะปลูกไร่สับปะรด โดยก่อนลงพื้นที่ได้มีการประชุมวางแผนที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 7 จ.ราชบุรี
การลงพื้นที่ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ป่าโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเตรียมดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการรวบรวมหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาลต่อไป ทั้งนี้ ดีเอสไอ ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้บุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ และจะเดินหน้าปกป้องผืนป่าอย่างต่อเนื่อง
นายเทวา จุฬารี เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 7 ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าว และได้พิจารณาดำเนินการสืบสวน โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินจำนวน 10 แปลง รวมประมาณ 500 ไร่ เบื้องต้นพบว่าที่ดินดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์ประเภท น.ส. 3 ก. อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสืบสวนขยายผลว่าเอกสารสิทธิ์เหล่านี้ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากเบื้องต้นทราบว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิ์ตามมาตรา 59 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์เดิมอ้างอิง โดยผู้ครอบครองอ้างว่าได้ครอบครองและทำประโยชน์อย่างต่อเนื่องก่อนปี พ.ศ. 2497
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะนำภาพถ่ายทางอากาศมาวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยืนยันว่ามีการครอบครองก่อนปี 2497 จริงหรือไม่ หากพบว่าไม่มีการใช้ประโยชน์จริงตามที่กล่าวอ้าง การออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดกฎหมาย และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ส่วนดีเอสไอ จะเสนอเรื่องให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป
จากการตรวจสอบปัจจุบัน พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการปลูกสับปะรดเต็มพื้นที่ สอดคล้องกับข้อมูลการร้องเรียน โดยที่ดินบางส่วนมีเอกสารสิทธิ์เป็นของเอกชน ซึ่งผู้ถือครองที่ดินให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบอย่างเต็มที่ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการซื้อมาโดยสุจริตภายหลัง จึงต้องให้ความเป็นธรรมและไม่ถือว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบข้อพิรุธว่าการครอบครองที่ดินอาจไม่ได้เริ่มต้นก่อนปี พ.ศ. 2497 ตามที่กล่าวอ้าง