บุรีรัมย์ – “หลวงพ่อมหาน้อย” เจ้าอาวาสนักเทศน์ชื่อดังบุรีรัมย์ มอบทนายเข้าแจ้งความเอาผิดเพจฯดัง และผู้แชร์ภาพบุคคลที่หน้าคล้ายหลวงพ่อในลักษณะมีสัมพันธ์ชายรักชาย เข้าข่ายหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสีย ชาวบ้านเชื่อถูกกลั่นแกล้งเพราะเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง รอเจ้าตัวกลับจากต่างประเทศชี้แจงเอง ด้านเจ้าคณะอำเภอฯเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
วันนี้ (6 ก.ค.68) เมื่อเวลา 10.00 น. หลวงพ่อมหาน้อย พระนักเทศน์ชื่อดังที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นายสุรินทร์ ทาซ้าย ทนายความ พร้อมพระมหาอานนท์ วิสุทธิสัมปันโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เสนีย์ ฉิมงาม สารวัตรสอบสวน สภ.โนนดินแดง เพื่อดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊กชื่อดัง และผู้ที่นำภาพหรือข้อความไปโพส์ตแชร์ในโซเชียล ในข้อหาหมิ่นประมาท และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560
หลังจากที่เพจดังกล่าว โพส์ตข้อความระบุว่า “หลวงพ่อมหาน้อย: ตอนที่ 1 มีผู้ร้องเรียนเข้ามา (ภาค 2 มาแล้ว) มีภาพหลุดของพระรูปหนึ่ง ที่มีใบหน้าและรูปร่างคล้ายกับ “หลวงพ่อมหาน้อย” พระนักเทศน์ชื่อดังจากจังหวัดบุรีรัมย์ โดยภาพดังกล่าวมีลักษณะส่อไปในทางเชิญชวนชายรักชาย ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดต่อพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง
ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพระในภาพคือหลวงพ่อมหาน้อยจริงหรือไม่ เพื่อความโปร่งใส และไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ – สำนักงานพระพุทธศาสนา – เจ้าคณะจังหวัด – สื่อมวลชน ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อ ปกป้องศรัทธาของพุทธศาสนิกชน และป้องกันการแอบอ้างหาผลประโยชน์ในคราบผ้าเหลือง #ตรวจสอบก่อนเชื่อ #พระสงฆ์ต้องโปร่งใส #ศรัทธาต้องไม่ถูกหลอก #สํานักพุทธศาสนา #เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์”
โดย นายสุรินทร์ ทนายความ ระบุว่า แม้ยังไม่มีการยืนยันความจริง แต่การเผยแพร่ภาพและข้อความในลักษณะนี้ถือว่าเป็นการสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง และเป็นเหตุให้ประชาชนเข้าใจผิด พร้อมเตือนประชาชนว่า ผู้ใดที่แชร์หรือแสดงความคิดเห็นในเชิงหมิ่นประมาท อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกัน จึงอยากให้ใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวและไม่ตัดสินความจากสิ่งที่เห็นเพียงด้านเดียว หากมีการโพส์ตหรือแชร์ที่ทำให้หลวงพ่อเสื่อมเสีย ก็จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย
ด้าน พระมหาอานนท์ วิสุทธิสัมปันโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เปิดเผยว่า หลวงพ่อท่านเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจที่ญี่ปุ่น 2 – 3 วันแล้ว ยังไม่มีกำหนดกลับ เบื้องต้นเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้น “ไม่น่าจะเป็นความจริง” และสงสัยว่าภาพอาจถูกตัดต่อใส่ร้าย เนื่องจากหลวงพ่อเป็นพระที่ระมัดระวังพฤติกรรมมาก และไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าเขตสงฆ์ได้ง่าย ก็ต้องรอหลวงพ่อท่านกลับมาชี้แจงด้วยตัวเอง
ทางด้าน นางสุภี ธงชัย หรือแม่หวาน อายุ 63 ปี ญาติโยมที่ช่วยงานวัดเผยว่า หลวงพ่อเป็นพระที่ดี คอยช่วยเหลือชาวบ้านมาโดยตลอด ไม่น่าเป็นผู้กระทำตามที่กล่าวอ้างในโซเชียล และมองว่าน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งหรือแบล็กเมลมากกว่า เพราะหลวงพ่อท่านเป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง ก็คงจะมีคนที่อิจฉาริษยาไม่ว่าจะเป็นพระหรือโยม
ทั้งนี้ทีมข่าวได้สอบถามไปยังพระครูนิเทศธรรมคุณ เจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดจะเดินทางมาตรวจสอบอีกครั้ง