ชายแดนตาก – กองกำลังกะเหรี่ยงเปิดฉาก ส่งโดรนบินทิ้งระเบิดถล่มกองบังคับการยุทธวิธีทหารเมียนมา ขณะที่ฝ่ายเมียนมาตอบโต้หนัก จนชาวบ้านเจ็บ 3 คน ต้องอุ้มลูกจูงหลานหอบสัมภาระหนีตายข้ามแดนเข้าไทยแล้วเกือบ 200 คน
วันนี้(4 ก.ค.68) กองกำลังกะเหรี่ยง KNDO ร่วมกับกองกำลัง KNLA หรือ กองทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู.) ได้ใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน บินทิ้งระเบิดเป็นระยะ ๆ โจมตีมั่นทหารเมียนมากองบังคับการยุทวิธีที่ 1 ค่ายทีตาแหล่ บ้านทีตาแหล่ อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ด้านตรงข้าม บ้านวาเล่ย์เหนือ ม.3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนไทยประมาณ 3 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่วงสายที่ผ่านมา
ขณะที่ทหารเมียนมาจากค่ายทีตาแหล่ ได้ยิงอาวุธปืนค120 จำนวน ได้ทำการยิง อวน. จำนวน 2 นัด เข้าไปยังเป้าหมายบริเวณพื้นที่บ้านวาเล่ย์ใหม่ ซึ่งทำให้ชาวเมียนมาบ้านวาเล่ย์ใหม่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ถูกพาอพยพข้ามมายังฝั่งไทยบริเวณท่าข้ามวาเล่ย์ บ้านวาเล่ย์ใต้ อ.พบพระ และเจ้าหน้าที่ทหารไทยได้ให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมเพื่อนำส่งโรงพยาบาลพบพระ
ขณะที่ พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนูได้เพิ่มเติมกำลังทหาร-ชุดตอบโต้เคลื่อนที่เร็ว ออกลาดตระเวน และเฝ้าตรวจในพื้นที่แนวชายแดนเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถตลอด 24 ชั่วโมง
และร่วมกับฝ่ายปกครอง อ.พบพระ สภ.พบพระ, ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่นให้ความช่วยเหลือราษฎรชาวเมียนมาที่ได้รับบาดเจ็บ ตามหลักมนุษยธรรม นอกจากนี้ได้ ประสานฝ่ายปกครอง ตำรวจ แจ้งเตือนประชาชนตามแนวชายแดนให้ทราบสถานการณ์ และเพิ่มความระมัดระวัง รวมทั้งการแจ้งเตือนไปยังกองกำลังฝั่งตรงข้ามให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้อาวุธบริเวณใกล้แนวชายแดน
ล่าสุด มีผู้ลี้ภัยจากการสู้รบชาวกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา ทั้งชาย-หญิง หอบข้าวของสัมภาระ/อุ้มลูก จูงหลาน เริ่มทยอยอพยพหนีตายเข้ามาเขตไทยแล้วเกือบ 200 คน โดยฝ่ายทหาร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปควบคุมดูแล และจัดพื้นที่ปลอดภัยให้อยู่เป็นการชั่วคราว