บุรีรัมย์ - ระทึกกลางดึก! เสียงระเบิดดังสนั่น 2 ครั้ง ก่อนเปลวเพลิงโหมไหม้อาคารเรียนหลัก ชั้น ป.1-ป.5 ของโรงเรียนบ้านโนนศิลา อ.เฉลิมพระเกียรติ ท่ามกลางสายฝนตกกระหน่ำ ระดมรถน้ำเร่งดับไฟนานกว่า 2 ชั่วโมง สุดสงสาร เด็ก นร.ยืนร้องไห้ดูอาคารเรียนถูกเพลิงเผาวอดต่อหน้า ถามแล้วหนูจะเรียนที่ไหน
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 2 ก.ค. 68 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนครึ่งปูนครึ่งไม้ อายุเกือบ 50 ปี ของโรงเรียนบ้านโนนศิลา หมู่ 8 ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 โดยอาคารที่ถูกไฟไหม้เป็นอาคารเรียนระดับชั้น ป.1‐ป.5 และเป็นห้องสมุดของโรงเรียนด้วย
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทั้งจากเทศบาล อบต.จากหลายพื้นที่ พร้อมทั้งหน่วยกู้ชีพ กู้ภัยฯ ได้ระดมกำลังคน พร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง และรถน้ำ เร่งระดมฉีดน้ำดับไฟที่โหมลุกไหม้อาคารเรียนอย่างรุนแรง ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำ แต่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ขณะที่เกิดเพลิงไหม้ ได้มีทั้งครู ผู้ปกครอง และนักเรียนที่อยู่ใกล้โรงเรียน มายืนมุงดูเหตุการณ์หลายคน โดยมีเด็กนักเรียนบางคนถึงกับร้องไห้ที่เห็นอาคารเรียนที่ตัวเองเรียนถูกเพลิงเผาวอดต่อหน้าต่อตา พร้อมกับถามผู้ปกครองว่า “แล้วหนูจะเรียนที่ไหน” ผู้ปกครองต้องคอยปลอบใจว่าเดี๋ยวเขาก็สร้างใหม่ ซึ่งเป็นภาพที่น่าสงสาร
สอบถาม น.ส.กุลภัฌสรณ์ ศรีกิมแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนศิลา ระบุว่า หลังได้รับแจ้งจากครูว่าเกิดไฟไหม้อาคารเรียนก็รีบเดินทางมาที่โรงเรียนทันที เห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อาคารเรียนอย่างรุนแรง แม้จะมีฝนตกหนักแต่เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงได้ แต่อาคารเรียนก็ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมดแล้ว ส่วนสาเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอีกครั้ง
ขณะที่ นางหนูแพง กอเมืองน้อย อายุ 58 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ผูกพันกับโรงเรียน บอกว่า ตนเคยเรียนที่อาคารนี้เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ตอนนี้มีลูกหลานเรียนอยู่ถึง 4 คน รู้สึกใจหายและเสียใจมากที่ต้องเห็นอาคารซึ่งผูกพันมานาน ถูกไฟไหม้วอดไปต่อหน้า
ด้านนายพิทักษ์ ศรีกิมแก้ว นายกเทศมนตรีตำบลยายแย้มวัฒนา เผยว่า อาคารหลังนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 2519 ถือเป็นอาคารเรียนหลักของโรงเรียน และมีคุณค่าทางจิตใจของคนในชุมชน เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงอีกครั้ง