บุรีรัมย์ - ตร.ลำปลายมาศล่าระทึกแก๊งค้ายานรกเครือข่าย “อ้ายลาว” เผยแก๊งยานรกเร่งเครื่องหนี ชนรถตำรวจ ต้องยิงยางสกัด เจ้าหน้าที่รวบยกแก๊งจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 2,000,000 เม็ด ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสร่วมกันสร้างสังคมปลอดภัยและปราศจากยาเสพติด
วันนี้ (30 มิ.ย.) พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมพล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช รองจเรตำรวจ รักษาราชการรองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 3, พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์, พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธาณี ผู้กำกับการ สภ.ลำปลายมาศ, หัวหน้าหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ชปส.ภ.จว.บุรีรัมย์, กก.ตชด.21, ตชด.215 และ 216, หน่วยทหารจากกองกำลังสุรนารี, กรมทหารพรานที่ 26 และฝ่ายปกครองอำเภอลำปลายมาศ
ได้แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายสำคัญเครือข่าย "อ้ายลาว" หลังจากตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้สกัดจับพร้อมของกลางยาบ้าล็อตใหญ่ 2,000,000 เม็ด เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2568 เวลา 19.05 น. และวันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 18.10 น. ในพื้นที่ ต.หนองคู และ ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ต.ทะเมนชัย อ.ทะเมนชัย จ.บุรีรัมย์ คาบเกี่ยวท้องที่ ต.กงรถ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา
สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายทองคำ หรือบาส อายุ 29 ปี (มหาสารคาม), 2. น.ส.ลัดดาวัลย์ หรือบี อายุ 29 ปี (มหาสารคาม), 3. นายพงษ์สิทธิ์ หรือก๊อก อายุ 29 ปี (นครราชสีมา) พร้อมของกลาง ยาบ้า 5 กระสอบ รวมประมาณ 2,000,000 เม็ด รถยนต์ ISUZU สีเทา 2 คัน (ใช้ขนยาและตรวจเส้นทาง) ป้ายทะเบียนปลอมหลายรายการ
ปฏิบัติการจับกุมแก๊งค้ายารายสำคัญครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลจากสายลับว่าขบวนการค้ายาเสพติดในเครือข่าย “อ้ายลาว” สัญชาติลาว ได้สั่งการให้นายทองคำ กับพวกรับยาบ้าที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แล้วลำเลียงไปพักที่ จ.มหาสารคาม ก่อนจะนำไปส่งต่อที่ จ.สระบุรี โดยใช้รถ ISUZU สองคัน ทั้งขนยาและตรวจเส้นทางในวันเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดสกัดที่ อ.ลำปลายมาศ พบรถต้องสงสัยและพยายามเรียกตรวจ แต่คนร้ายพยายามหลบหนี จนเกิดการขับรถชนสายตรวจและขับหนีต่อ เจ้าหน้าที่ติดตามและยิงยางสกัดรถ พบยาบ้า 5 กระสอบในรถ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้พร้อมของกลาง ผู้ต้องหาทั้งสามรายถูกแจ้งข้อหาหนัก มียาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เสพยาเสพติด ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ (เฉพาะนายทองคำ) ซึ่งถือเป็นมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน เจ้าหน้าที่จะขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 3 และจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ขอความร่วมมือจากประชาชนและสถานประกอบการในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติด ผ่านสายด่วน 1599, 191 หรือแอปพลิเคชัน “Police i lert U” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมปลอดภัยและปราศจากยาเสพติด