สระแก้ว- โครงการปั่นเบญจบูรพาจากภูผาสู่มหาสมุทร สร้างกระแสท่องเที่ยวเชิงกีฬาเชื่อมโยง 5 ตะวันออก เปิดสนามที่ 3 เส้นทางสระแก้ว – จันทบุรี ที่หมู่บ้านทับทิมสยาม 05 อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (29มิ.ย.) ดร.พัชรี ศาลาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดกิจกรรม “ปั่นเบญจบูรพา จากภูผาสู่มหาสมุทร” สนามที่ 3 เส้นทางสระแก้ว – จันทบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2สนามที่ 3 “ปั่นเบญจบูรพา จากภูผาสู่มหาสมุทร” สร้างกระแสท่องเที่ยวเชิงกีฬาเชื่อมโยง 5 จังหวัดภาคตะวันออก ซึ่งจัดขึ้นที่หมู่บ้านทับทิมสยาม 05 ม.10 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้งบประมาณของกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก 2 ประกอบด้วย จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด โดยมีเป้าหมายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาและผจญภัย สร้างรายได้แก่ชุมชน และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
น.ส.ชลชา บุญโต ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่ากิจกรรม “ปั่นเบญจบูรพา จากภูผาสู่มหาสมุทร” มุ่งยกระดับภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาในภูมิภาค พร้อมพัฒนาศักยภาพเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง 5 จังหวัดผ่านกิจกรรมปั่นจักรยาน โดยกำหนดจัด 4 สนาม ได้แก่1. นครนายก – ปราจีนบุรี (15 มิ.ย. 68) 2. ปราจีนบุรี – สระแก้ว (22 มิ.ย. 68) 3. สระแก้ว – จันทบุรี (29 มิ.ย. 68) และ 4. จันทบุรี – ตราด (6 ก.ค. 68)
สำหรับสนามที่ 3 สระแก้ว – จันทบุรี มีนักปั่นเข้าร่วมจำนวน 750 คน ใช้เส้นทางจากหมู่บ้านทับทิมสยาม 05 ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี รวมระยะทาง 96 กิโลเมตร โดยมีจุด Check Point ที่อ่างเก็บน้ำบ้านเขาเลื่อม และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว
พร้อมกิจกรรม Game Point ที่วัดเขาเลื่อมมังคลาราม และวัดใหม่กระจ่างธรรม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนันทนาการ การแสดงสินค้า OTOP และการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นตลอดเส้นทาง
โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เช่น ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วและจันทบุรี สาธารณสุขจังหวัด ตำรวจท่องเที่ยว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยกู้ภัย รวมถึงชุมชนในพื้นที่ที่ร่วมสนับสนุนการจัดกิจกรรมให้เป็นไปอย่างราบรื่น
ดร.พัชรี กล่าวว่ากิจกรรมนี้ไม่ใช่เพียงแค่การปั่นจักรยาน แต่คือการเดินทางสัมผัสธรรมชาติ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของท้องถิ่นจากภูเขาสู่ทะเล ถือเป็นความร่วมมือที่เข้มแข็งของ 5 จังหวัด ภายใต้นโยบาย “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และสร้างเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน