รพ.ตราด แถลงโต้แพทย์​เขมรกล่าวหาไร้จรรยาบรรณแจงยิบพฤติกรรมสาวเขมรทิ้งลูก

 ตราด-  ผอ.รพ.ตราด แถลงโต้แพทย์เขมรกล่าวหาไร้จรรยาบรรณ แจงยิบไทม์ไลน์-พฤติกรรม​สาวเขมรตั้งใจทิ้งลูกหนีกลับประเทศ ยันทำทุกขั้นตอนตามมาตรฐานวิชาชีพ ลั่นพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย​

จาก​กรณีที่แพทย์โรงพยาบาลฝั่งเขมร ได้โพสต์ข้อความกล่าวหาแพทย์ไทยว่าไร้จรรยาบรรณ โดยอ้างว่าพยายามผลักดันสาวเขมรที่เพิ่งคลอดลูกออกนอกประเทศ เพียงเพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลนั้น

เมื่อเวลา 13.30 น. วนนี้ (27 มิ.ย.) นายแพทย์สุชาติ ตันตินิรามัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ได้ร่วมกันแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงและขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและยืนยันว่าการทำงานของโรงพยาบาลเป็นตามมาตรฐานวิชาชีพ

พร้อมบอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14:15 น. วันที่ 25 มื.ย.ที่ผ่านมาหลังพยาบาลตึกหลังคลอด ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยพยายามหนีออกจากโรงพยาบาลโดยให้เหตุผลว่าไม่มีค่าใช้จ่าย ทางโรงพยาบาล จึงพยายามให้คำแนะนำอย่างละเอียดถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัว

 เนื่องจากผู้ป่วยเพิ่งคลอดบุตรและอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายเช่น การตกเลือดหลังคลอด หรือการติดเชื้อ นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงสิทธิ์และช่องทางการขอรับความช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่าย

แต่ผู้ป่วยชาวเขมรยังคงปฏิเสธการรักษาและยืนยันที่จะกลับประเทศทันที และเมื่อสอบถามถึงบุตรผู้ป่วยแสดงเจตนาว่าไม่ต้องการและขอให้โรงพยาบาลนำไปทิ้ง


หลังจากนั้นผู้ป่วยได้พยายามวิ่งหนีออกจากโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แพทย์นิติกร และนักสังคมสงเคราะห์ เข้าพูดคุยและระงับเหตุ แต่ผู้ป่วยก็ยังคงมีพฤติกรรมพยายามหลบหนี จนต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดูแล

" และเมื่อเวลา 15:40 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาพูดคุยกับผู้ป่วยอีกครั้งเพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัวและการทอดทิ้งบุตร ซึ่งอาจส่งผลตามกฎหมาย แต่ผู้ป่วยก็ยังยืนยันที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชา อีกทั้วยังเริ่มมีท่าทีก้าวร้าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานงานเพื่อผลักดันผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญ"

อำนวยการโรงพยาบาลตราด ยังเผยอีกว่าในระหว่างนั้นกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ได้ประสานงานไปยังกุมารแพทย์โรงพยาบาลเกาะกง เพื่อประเมินอาการของทารกอย่างละเอียด พร้อมบอกว่าเด็กตัวเล็กและมีน้ำหนักเพียง 900 กรัมแต่สุขภาพแข็งแรงดี แต่พฤติกรรมของมารดา มีความพยายามที่จะหลบหนีและต้องการทอดทิ้งทารกไว้

โรงพยาบาลตราด จึงได้ประสานส่งตัวทารกไปยังโรงพยาบาลเกาะกง ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีและมีการอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรของโรงพยาบาลเกาะกง ร่วมกันเป็นประจำทุกปี

" อีกทั้งยังมีระบบการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างสองโรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลเกาะกง ก็ยินดีที่จะรับทารกไปดูแลรักษา และโรงพยาบาลตราด ได้เตรียมรถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น อาทิ ออกซิเจนและตู้ควบคุมอุณหภูมิ โดยมีพยาบาลเฉพาะทางทารกแรกเกิดดูแลอย่างใกล้ชิด เดินทางไปส่งบริเวณชายแดนทำให้มารดาและบุตรอยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัย"


กระทั่งเวลาประมาณ 21:52 น. ของวันเดียวกัน โรงพยาบาลเกาะกง โดยกุมารแพทย์ได้ประสานงานกลับมายังโรงพยาบาลตราด พร้อมส่งภาพถ่ายการดูแลทารกเป็นหลักฐาน และโรงพยาบาลตราด ยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกขั้นตอนตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมและกฎหมายอย่างเหมาะสมที่สุด

" ส่วนประเด็นที่โรงพยาบาลฯ ถูกประณามว่าไร้จรรยบรรณนั้น เชื่อว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและไม่ถูกต้อง ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ได้มีการประสานงานส่งผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ และโรงพยาบาลเกาะกง ก็มีศักยภาพในการดูแล เนื่องจากได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาจากโรงพยาบาลตราดเป็นประจำทุกปี และกุมารแพทย์ของโรงพยาบาลเกาะกงก็ยินดีที่จะรับทารกกลับไปดูแล เพราะทารกก็แข็งแรงดี"


ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตราด ยังเผยอีกว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นแรงงานที่เข้าประเทศโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีบัตรสุขภาพ แตกต่างจากแรงงานถูกกฎหมายที่มีบัตรสุขภาพที่โรงพยาบาลให้การรักษาตามระเบียบ

อีกทั้งในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ โรงพยาบาลตราด ย้ำว่ามีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับโรงพยาบาลเกาะกง และโรงพยาบาลตราดมีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยที่สูงกว่าทั้งด้านบุคลากรและเครื่องมือ ซึ่งส่วนใหญ่จะรับผู้ป่วยจากเกาะกงมารักษาและส่งกลับเมื่ออาการดีขึ้น

" หลังเกิดเหตุการณ์นี้ได้สอบถามไปยังไลน์ส่งต่อผู้ป่วยที่มีบุคลากรของโรงพยาบาลเกาะกง ว่าเกิดอะไร แต่ก็ยังไม่มีได้รับข้อความตอบกลับแต่อย่างใด ส่วนขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตราดมีความสามัคคีกันเพิ่มขึ้น และรู้สึกว่าได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง แต่กลับถูกเข้าใจผิดและตกเป็นผู้ถูกกระทำ ส่วนแนวทางดำเนินการต่อไปนั้น ทางโรงพยาบาล จะพิจารณาปรึกษาผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการดำเนินคดีทางกฎหมาย หากมีการเรียกร้องให้แจ้งความดำเนินคดี" อำนวยการโรงพยาบาลตราด กล่าว…