มุกดาหาร - แม่ทัพภาคที่ 2 และคณะถวายพระประธานทรงเครื่องสมัยอู่ทอง ณ วัดศรีบุญเรืองที่มุกดาหารประชาชนแห่ต้อนรับ ผูกผ้าขาวม้ามอบดอกกุหลาบเป็นกำลังใจจนแน่นลานวัด ขณะเจ้าตัวชี้แจงสถานการณ์ชายแดนเขมร ยังไม่มีเหตุรุนแรงถึงขั้นใช้อาวุธ ฝ่ายไทยไม่ได้ปิดด่านใช้คำว่าเข้มงวดมากกว่า ยังอนุโลมการเข้าออกทางด้านมนุษยธรรม ส่วนคลิปคนเขมรทำคุณไสยใส่ ไม่กลัว เพราะทำความดีพระจะคุ้มครอง
วันนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นางสุพางค์พรรณ พาดกลาง เป็นประธานในพิธีถวายพระประธานทรงเครื่องสมัยอู่ทอง หน้าตัด 30 นิ้ว ปางสะดุ้งมาร ถวายเป็นพุทธบูชาและพุทธานุสติบำรุงเสนาสนะปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัดศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จ.มุกดาหาหาร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนกราบไหว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ โดยมีพระราชรัตนโมลี เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหาร เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วย นายวรญาณ บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พล.ต.ต.ไพโรจน์ ไทยพุทรา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ตัวแทนภาครัฐและเอกชนรวมถึงชาวมุกดาหารจำนวนมากให้การต้อนรับ
บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น ประชาชนที่มาให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ต่างมอบดอกกุหลาบ ของที่ระลึก ผูกผ้าขาวม้าต้อนรับตามประเพณีอีสาน ก่อนจะขอถ่ายรูปและเซลฟีเป็นที่ระลึกจนแน่นวัด ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดจาทักทายชาวบ้านด้วยภาษาอีสานอย่างเป็นกันเอง
หลังเสร็จพิธี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงสถานการณ์ชายแดนว่า เรื่องการเปลี่ยนเแปลงเวลาเปิดปิดด่าน ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลสองประเทศจะคุยกัน ปัจจุบันยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือน่าเป็นห่วงที่จะนำไปสู่การใช้อาวุธซึ่งกันและกัน ยังไม่มีเหตุรุนแรงอะไร ขณะที่กำลังฝ่ายกัมพูชาและกำลังของเรายังอยู่เขตใครเขตมัน เราต้องแก้ปัญหาตามสถานการณ์ ส่วนเรื่องเขมรจะนำภาพไปร้องศาลโลกว่าเป็นพื้นที่ของเขา อันนั้นให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ส่วนการปิดหมดทุกด่าน เราไม่ได้ใช้คำว่าปิดด่าน แต่เราใช้คำว่าควบคุมอย่างเข้มงวด คืออนุโลมการเข้าออก ทางด้านมนุษยธรรมอยู่ เช่น รถพยาบาล คนป่วย เครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือนบางส่วน
แต่ส่วนอื่นเราก็ห้ามเข้า ห้ามออก เป็นหน้าที่ทุกส่วนที่ต้องร่วมกันแก้ปัญหา ส่วนทหารเราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และขอให้พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนทั่วประเทศให้มั่นใจในขีดความสามารถ และความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยทั้ง 4 เหล่าทัพ เรามั่นใจว่ายังคงรักษาดินแดนของชาติ ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร กองทัพจะดูแลอธิปไตยอย่างดีที่สุด
ส่วนที่คลิปชาวกัมพูชาทำคุณไสยใส่นั้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ไม่กลัว เพราะยึดมั่นในการกระทำความดี หากทำความดีแล้วเชื่อว่าพระจะคุ้มครอง
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 20 จังหวัดอีสานใต้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งจะนำพระประธานไปถวายยังวัดในจังหวัดนั้นๆ จังหวัดละ 1 องค์ การลงพื้นที่ในแต่ละครั้ง นอกจากไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารแล้ว ยังได้มีโอกาสพบปะกับประชาชน ซึ่งคนทางภาคอีสานชอบเข้าวัดทำบุญ ตนจึงเห็นว่าการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งควรที่จะทำบุญที่วัด โดยการถวายพระองค์ใหญ่หรือพระประธานให้แก่วัด เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวด้วยว่า การทำบุญ เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรือง ให้พี่น้องประชาชน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญมากมาย แก่ชีวิตของทุกๆ ท่าน อีกทั้งยังช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายให้พ้นออกไปจากประเทศเรา และนำพาความสุข ความเจริญกลับมาสู่ประเทศเรา เป็นการแก้เคล็ด หรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป
จากนั้นพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 คณะพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพภาคที่ 2 รุ่นที่ 5 พร้อมด้วยนางวรศุลี สุวรรณปริสุทธิ์ ประธานมูลนิธิ ศรัทธาทาน และผู้มีเกียรติเดินมาบริเวณด้านหน้าอุโบสถ เพื่อมอบสิ่งของและข้าวสารแก่ผู้ร่วมงานอีกด้วย