สุรินทร์ - ดรามา! สองสามีภรรยาไทย-กัมพูชากอดกันร้องไห้ร่ำลาหน้าด่านช่องจอม สุรินทร์ หลังมาส่งเมียชาวเขมรกลับประเทศ เผยมาอาศัยอยู่ไทยกว่า 30 ปีจำเป็นต้องจาก ท่ามกลางชาวกัมพูชาขนสัมภาระแห่กลับประเทศต่อเนื่อง ขณะ จนท.กัมพูชายอมให้เด็ก นร.เขมร 3 คนข้ามแดนมาเรียนในไทยได้แล้ว ส่วนบรรยากาศตลาดชายแดนช่องจอมเงียบเหงา ยังพบร้านแม่ค้าเขมรเร่งขายลดราคาหาเงินไปประทังชีวิตที่กัมพูชา
วันนี้ (26 มิ.ย. 68) เวลา 08.30 น. ที่บริเวณฐานทหารกลาง กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) ทางเข้าจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวพบสองสามีภรรยาชาวไทย-กัมพูชา ทราบชื่อคือนายสมพงษ์ ขอชนะ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ม.3 บ.ลำดวน ต.โชคเหนือ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นคนไทย เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์มาส่งภรรยา คือ นางแอม อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาอยู่ บ.โอร์เสม็ด ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย
นายสมพงษ์ สามี บอกว่า ตนกับนางแอมคบกันกับสามีภรรยามา 10 ปี มีอาชีพรับซื้อไก่บ้านเพื่อนำไปขายให้กับนายทุนที่รับซื้อไปขายต่อให้ชาวกัมพูชา โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงรถเข็นบรรทุกกรงใส่ไก่ เร่รับซื้อตามหมู่บ้าน หลังจากเกิดสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่มีรายได้ และกรณีทางทหารไทยขอความร่วมมือให้ชาวกัมพูชากลับประเทศก่อน ตนจึงมาส่งภรรยาไม่รู้อีกนานแค่ไหน จะได้เจอกัน เพราะรักและผูกพันกันมาก
ขณะที่ นางแอม ชาวกัมพูชา บอกว่า ตนอาศัยอยู่ในประเทศไทยมากว่า 30 ปีแล้ว อพยพมาอาศัยแผ่นดินไทยตั้งแต่สมัยก่อน และทำมาหากินในประเทศไทยจนได้สามีไทย ตนไม่อยากกลับไปกัมพูชาเลย รักและเป็นห่วงสามีมาก นางแอม ชาวกัมพูชา กล่าวทั้งน้ำตา
ก่อนที่ทั้งคู่จะโผกอดกันที่บริเวณฐานทหารกลาง ก่อนถึงจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารไทย ได้กักไว้เพื่อตรวจสอบเอกสาร ที่ชาวกัมพูชารอข้ามแดนกลับประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ประตูด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ฝั่งโอร์เสม็ด กัมพูชา ได้ทำการเปิดให้ชาวกัมพูชาข้ามแดนเข้าประเทศในเวลา 10.00 น. เช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ โดยมีชาวกัมพูชาที่มาจากตลาดการค้าชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และจากต่างจังหวัดขนสัมภาระกลับประเทศ จำนวน 61 คน ซึ่งบางคนบอกว่ากลับไปรอดูสถานการณ์ก่อน บางคนที่มาจากต่างจังหวัดบอกว่ากลับไปหว่านข้าวทำนาก่อน
ขณะที่ประตูด่านผ่านแดนฝั่งไทยได้เปิดตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ตามมาตรการควบคุมของกองทัพภาคที่ 2 ที่อนุญาตให้ข้ามแดนเข้ามาได้ในด้านเกี่ยวข้องกับมนุษยธรรมเท่านั้น โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาพบเด็กนักเรียนชาวกัมพูชาข้ามแดนมาเรียนหนังสือที่ฝั่งไทยจำนวน 3 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กัมพูชาก็อนุญาตให้ข้ามเข้ามาเรียนหนังสือในไทยได้แล้ว
ขณะที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ราม 3 กิโลเมตร พบว่าร้านค้าปิดตัวเงียบกริบ เหลือเพียงร้านค้าคนไทยบางส่วนที่ยังเปิดค้าขายตามปกติ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบเหงา และยังพบว่ายังมีร้านขายอุปกรณ์เครื่องนอนของชาวกัมพูชา 1 ร้านที่ยังคงเปิดขายแบบลดราคาอยู่ ซึ่งสินค้าเริ่มบางตาลง โดยแม่ค้าบอกว่าจะขายให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อเอาเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายประทังชีวิตที่ฝั่งกัมพูชา รอให้สถานการณ์ดีขึ้นจึงค่อยกลับมาทำมาค้าขายที่ฝั่งไทยใหม่