ลำปาง - แพทย์อายัดร่างผู้เสียชีวิตปริศนาชาวลำปาง..หลังออกไปดื่มเหล้าบ้านเพื่อนแล้วติดต่อไม่ได้ตั้งแต่ 20 มิถุนาฯ ญาติแจ้งหาย-ลูกประกาศตามหา ก่อนพบร่างลอยติดท่อส่งน้ำชลประทาน สภาพสวมแต่เสื้อ-กางเกงชั้นใน หน้าผากมีแผลยาว พิสูจน์ทั้งอัตลักษณ์คนหาย-ฆาตกรรม-ข่มขืน
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เอิร์น” โพสต์ตามหาแม่ในหลายกลุ่มสาธารณะของจังหวัดลำปาง ว่า “ประกาศ ตามหาคนหายค่ะ หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. 68 ชื่อ น.ส.อ้อยใจ จำแม่น นิสัยชอบเมา หายไปจากบ้านห้วยสะเหน้า ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง แม่ไปดื่มเหล้าบ้านเพื่อนที่บ้านสันติสุข แล้วเพื่อนบอกมาส่งที่บ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าส่งถึงไหน ไม่มีใครเห็นแม่อีกเลย ใครพบเห็นแม่รบกวนแจ้งเบาะแสที ค่ะ ทางบ้านเป็นห่วง” พร้อมกับลงหมายเลขโทรศัพท์
ต่อมาวันที่ 24 มิ.ย. 68 ลูกสาวของผู้สูญหายได้เดินทางกลับมาจากที่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ เข้าพบ จนท.ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เพื่อแจ้งเรื่องให้ช่วยกันตามหาแม่ ซึ่งญาติได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.แจ้ห่ม หลังจากระดมคนออกตามหาในพื้นที่บ้านพักและบ้านเพื่อนแล้วไม่พบ
ขณะที่ชุดสืบสวน สภ.แจ้ห่มได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เพื่อนผู้สูญหายให้การโดยรอบพบว่าห่างจากบ้านพักผู้เสียชีวิตประมาณ 500 เมตร มีรอยคล้ายหยดเลือดหยดลงบนพื้นถนนและพบมีเงินเหรียญ 10 บาท เหรียญ 1 บาทตกอยู่ รวม 39 บาท สอบสวนเพื่อนที่ร่วมวงเหล้ากับผู้สูญหายก็ให้การว่าคืนวันที่ 20 หลังดื่มกินกันเสร็จได้ขี่ จยย.มาส่งผู้สูญหายใกล้กับฟาร์มหมู ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักของผู้เสียชีวิต แล้วไม่ทราบอีกเลยว่าหายไปไหน
กระทั่งเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพหญิงสาวลอยมาติดหน้าท่อส่งน้ำชลประทาน เขตบ้านห้วยสะเหน้า ต.ปงดอน อ.แจ้ห่ม อยู่ในสภาพส่งกลิ่นคลุ้ง สภาพหน้าผากมีบาดแผลยาว สวมเพียงเสื้อชั้นใน-กางเกงชั้นในเท่านั้น
พ.ต.อ.พิภพ สุภาพร ผกก.สภ.แจ้ห่ม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลแจ้ห่ม สมาคมกู้ภัยลำปางจุดแจ้ห่ม ชุดนิติเวชสมาคมกู้ภัยลำปาง เข้าร่วมกันชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเป็นนางสาวอ้อยใจ อายุ 46 ปี ผู้สูญหายที่มีผู้แจ้งความไว้ที่ สภ.แจ้ห่ม แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปที่ รพ.ลำปางเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดตามขั้นตอน
ทั้งนี้ เบื้องต้นทางลูกสาวต้องการให้ทำการฌาปนกิจแม่เมื่อวานนี้ ( 25 มิ.ย.) แต่ทางแพทย์นิติเวชยังไม่อนุญาตและได้อายัดศพไว้ที่ห้องนิติเวชเพื่อรอการตรวจสอบดีเอ็นเอของลูกสาวว่าตรงกับผู้เสียชีวิตหรือไม่ เนื่องจากศพไม่มีอัตลักษณ์ใดๆ ที่สามารถบอกได้ว่าคือผู้สูญหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แจ้ห่มยังคงติดใจประเด็นการเสียชีวิตว่าจะถูกฆาตกรรมและถูกข่มขืนหรือไม่ ซึ่งต้องรอการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง
