ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - กลุ่มมวลชนคนโคราชนัดรวมพลหน้า “ย่าโม” ก่อนเคลื่อนเข้ากรุงร่วม “คปท.” ชุมนุมใหญ่ ขับไล่ “นายกฯ อิ๊งค์” 28 มิ.ย.นี้ ชี้หมดความชอบธรรม อยู่ไปก็อับอายชาวโลกยิ่งทำให้ประเทศชาติเสียหายมากยิ่งขึ้น ขณะคนเสื้อแดงโคราชไม่หวั่นม็อบ 28 มิ.ย. ฟันธงล้มรัฐบาลไม่สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีกลุ่ม "รวมพลังแผ่นดิน" ประกาศจัดการชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 28 มิ.ย. 68 นี้ เพื่อเรียกร้องให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง จากกรณีคลิปเสียงหลุดที่เผยบทสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและความมั่นคงของชาติ โดยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 68 ได้มีกลุ่มมวลชนประชาชนคนโคราชกว่า 200 คนออกมาชุมนุมที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ลานย่าโม) พร้อมกับประกาศจะระดมคนไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพมหานครในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ นั้น
ล่าสุดวันนี้ (26 มิ.ย. 68) นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล แกนนำกลุ่มมวลชนคนโคราช และอดีตแกนนำ กปปส.โคราช เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.กลุ่มมวลชนคนโคราชได้นัดรวมตัวกันที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เพื่อขึ้นรถบัสโดยสารจำนวน 3 คัน และรถตู้อีก 10 คัน เดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม คปท.ที่กรุงเทพฯ เพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร
ทั้งนี้ เพราะพวกเราเห็นว่านายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบันหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศแล้ว อยู่ต่อไปก็อับอายชาวโลกและจะทำให้ชาติไทยเสียหายไปมากกว่านี้ จึงควรลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง
"ส่วนจะเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่แล้วจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่นั้นก็เป็นเรื่องของรัฐสภา แต่จะให้ดีที่สุดคือยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชนจะเป็นทางออกสุดท้าย สำหรับกลุ่มมวลชนคนโคราชที่จะไปร่วมชุมนุมที่กทม.คาดว่าไม่ต่ำกว่า 400 คน" นายสุพจน์กล่าว
ทางด้าน นายสมโภชน์ ประสาทไทย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไรกับการชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ และความเห็นต่างก็เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย แต่ควรให้อยู่ในขอบเขตของข้อกฎหมาย และเชื่อว่าการชุมนุมจะไม่บานปลายถึงกับให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออกแน่นอน
ด้าน นายเทพบุตร แสงสุข กลุ่มคนเสื้อแดงโคราช กล่าวว่า ตนยังคงยืนยันที่จะสนับสนุนรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และขอยืนหยัดอยู่ในจุดยืนเดิม โดยไม่หวั่นไหวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ตนไม่เชื่อว่าการชุมนุมครั้งนี้จะสามารถล้มรัฐบาลได้ ตนมองว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นเพียงสัญลักษณ์มากกว่า ยอมรับว่าประชาชนบางส่วนอาจเข้าใจในเหตุผลของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่มีน้ำหนักพอจะกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้อย่างจริงจัง ตนมีความมั่นใจอย่างมากว่าการชุมนุมนี้ไม่น่าจะติดกระแสหรือประสบความสำเร็จแต่อย่างใด
ในส่วนของกลุ่มคนเสื้อแดงโคราชจะไม่มีการจัดม็อบเพื่อเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม แต่จะยังคงอยู่ในพื้นที่ฐานที่มั่น และส่งสารสนับสนุนรัฐบาลผ่านช่องทางอื่นแทน เพราะมีความจำเป็นที่ประเทศจะต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการประเทศ เพราะหากนายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา ประเทศจะต้องอยู่ภายใต้รัฐบาลรักษาการ ซึ่งไม่มีอำนาจเต็มในการบริหาร และนั่นจะเป็นช่องว่างให้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชาใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ได้ ตนจึงเห็นว่าการมีรัฐบาลที่เข้มแข็ง และสามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องเป็นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เท่านั้น แต่ประเทศต้องมีผู้นำ และรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของชาติ