กาญจนบุรี - ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์ฯ ออกโรงแสดงความเห็นต่อกรณีรัฐบาลเตรียมคุมเข้มกัญชา ทั้งประกาศกฎกระทรวงควบคุม "สันทนาการ" และมีแนวโน้มนำกลับสู่บัญชียาเสพติด ชี้การควบคุม "กัญชาเสรี" เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ไม่เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เกรงว่าอุตสาหกรรมกัญชาไทย จะถึงคราวล่มสลาย ซ้ำรอยนโยบายการเมืองแบบ "พูดแล้วทำ ทำแล้วทิ้ง"
นายวิศารท์ พจน์ประสาท ประธานบริหารนิคมอุตสาหกรรมกัญชาทางการแพทย์แห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนนิคมสมุนไพรสัมพันธ์ตะวันตก ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กล่าวถึง กฎกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ซึ่งประกาศ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ที่มีผลบังคับใช้วันนี้ 26 มิถุนายน 2568 ว่า เป็นการควบคุมการใช้กัญชาในทางสันทนาการ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อร้านขายกัญชา แต่สำหรับฟาร์มปลูกที่ถูกกฎหมายอาจได้รับผลกระทบบ้างไม่มากนัก ส่วนฟาร์มเถื่อนและผู้นำเข้าดอกกัญชาเถื่อนจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น อย่างไรก็ตาม กฎกระทรวงนี้ยังขาดบทลงโทษที่รุนแรงและเด็ดขาด
ประธานบริหารนิคมฯ กัญชาฯ ยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่า ฟาร์มที่ถูกกฎหมายส่วนใหญ่ไม่ได้ขายกัญชาให้ร้านค้าทั่วไป แต่กลุ่มร้านค้าเหล่านั้นมักซื้อขายกัญชานอกระบบ เน้นราคาถูก ทำให้เกิดกลุ่มพ่อค้าคนกลางที่กำหนดราคาโดยไม่สนต้นทุน ส่งผลให้ฟาร์มกัญชากว่า 80% ต้องปิดตัวลง หากรัฐบาลควบคุมกัญชาสันทนาการจริง ก็ควรมีแนวทางสนับสนุนให้ผู้ปลูกสามารถส่งออกได้ พร้อมตั้งคำถามถึงความเข้าใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต่อ "กัญชาทางการแพทย์" และขอให้รัฐบาลพิจารณาช่องทางการตลาดด้านอื่น เพื่อให้อุตสาหกรรมกัญชาไทยเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่ใช้กัญชาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น
สำหรับกรณีที่รัฐบาลมีแนวโน้มจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด นายวิศารท์ แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะจะส่งผลกระทบต่อการศึกษา วิจัย สกัด และทดลองกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์ รวมถึงการปรุงยาตามตำรับแพทย์แผนไทยที่จะมีความยุ่งยากซับซ้อนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังตั้งคำถามถึงแผนรองรับภาคการส่งออก หากกัญชาถูกกฎหมายในต่างประเทศ แต่ผิดกฎหมายในไทย
นายวิศารท์ ทิ้งท้ายว่า ธุรกิจกัญชาในปัจจุบันบอบช้ำอย่างมาก ผู้ประกอบการต่างต้องปรับตัวเพื่อเข้าสู่มาตรฐานโลก แต่ยังขาดความเป็นเอกภาพ หากรัฐบาลยังคงซ้ำเติมโดยไม่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง อุตสาหกรรมนี้คงล่มสลาย เหมือนกับนโยบายการเมืองที่ไม่ยั่งยืน
