พระนครศรีอยุธยา - สลด ! เก๋งชนประสานงารถบรรทุกพ่วง22ล้อ คนขับเก๋งร่างอัดก๊อปปี๊เสียชีวิตคาที่ คนขับรถพ่วง เผยเก๋งขับมาเร็วข้ามฝั่งมาชนอย่างจัง บริเวณ ถนนสาย 356 ในพื้นที่ตำบลเกาะเรียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา
บ่ายวันนี้ (25 มิ.ย.) ร.ต.อ.วุฒิภัทร ช่วยคิด พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนกับรถยนต์เก๋ง บน ถนนเลี่ยงเมืองอยุธยา หรือ ถนนสาย 356 ในพื้นที่ตำบลเกาะเรียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตติดค้างอยู่ภายในรถยนต์เก๋ง 1 ราย เป็นชาย เจ้าหน้าที่จึงประสานกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา ออกตรวจสอบพร้อมอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุเป็นบริเวณก่อนขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ เป็นถนนลักษณะ 2 เลนส์ขับสวนกัน พบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 700 – 2387 กรุงเทพมหานคร ทะเบียนตัวลูก 62 – 4741 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังเสียหายยับเยินไม่สามารถขับเคลื่อนได้ มีนาย ทองลี อายุ 61 ปี ชาวตำบลแก่งผักกูด อำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี เป็นคนขับอยู่ในอาการตกใจ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในจุดเกิดเหตุ ใกล้กันพบ รถยนต์เก๋งฮอนด้า เฮชอาร์วี สีขาว หมายเลขทะเบียน 5 กฆ 505 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน
ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นชาย ทราบชื่อต่อมา ชื่อ นาย กฤษณพัฒน์ อายุ 35 ปี ชาวตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สภาพร่างกายถูกอัดติดอยู่ในตัวรถมีแผลฉกรรจ์หลายแห่ง และยังพบเบาะคาร์ซีท สำหรับเด็ก 2 ตัวอยู่ที่เบาะหลัง ท้ายรถพบรถเข็นเด็กเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยุธยาจึงตรวจสอบในรถอย่างละเอียดไม่พบใครเพิ่มเติมพร้อมระดมอุปกรณ์ตัดถ่างหลายชุดพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้
สอบถาม นาย ทองลี คนขับรถบรรทุกพ่วง เล่าว่า ตนเองขับรถมาจากอำเภอบางไทร เพื่อจะไปรับรถแม็คโคร ในพื้นที่อำเภอนครหลวง จังหวะมาถึงจุดเกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วข้ามสะพานมากำลังลงจากสะพาน มาเจอกับรถบรรทุกพ่วงของตนที่กำลังขับขึ้นสะพาน ตนเองพยายามชะลอแล้ว แต่ก็ไม่ทันขับมาฝั่งของตนเองทำให้ชนประสานงาอย่างจัง คือหลบไม่ได้แล้ว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมา ภรรยาผู้เสียชีวิต พร้อมครอบครัวมาถึงจุดเกิดเหตุถึงกับเข่าอ่อนล้มฟุบร้องไห้อย่างหนัก ลงนั่งกองกับพื้นเมื่อเห็นว่าเป็นรถยนต์ของสามีตนเองที่ประสบอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวไปที่รถพยาบาล เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยเล่าว่า แฟนน่าจะกำลังจะไปทำงานเพราะเห็นบอกว่าจะไปทำธุระให้แม่ที่ศาลากลางแล้วอาจจะไปร้าน ที่อำเภอสนา เปิดเป็นร้านอะไหล่รถยนต์ หรืออาจจะกลับบ้านก็ไม่แน่ใจเพราะบ้านอยู่ในหมู่บ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตรเอง เจอกันล่าสุดเมื่อเช้าเพราะตนเองเลี้ยงลูกเล็ก 2 คนอยู่ที่บ้าน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และ จะเชิญตัวคนขับรถบรรทุกไปทำการสอบถามอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยรอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุ ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยานำส่งชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี ก่อนมอบร่างให้ครอบครัวรับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป