ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองนายกเมืองพัทยา นำเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรจัดเก็บทุ่นในโครงการที่จอดเรืออัจฉริยะ จมในทะเลหลังถูก “พายุหว๋ามก๋อ” พัดถล่มเมื่อปี 58 จนพังเสียหายใช้งานไม่ได้ ซ้ำส่งผลกระทบการจอดเรือผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว
วันนี้ (25 มิ.ย. ) นายมาโนช หนองใหญ่ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่บริเวณแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ เพื่อจัดเก็บทุ่นในโครงการที่จอดเรืออัจริยะ ซึ่งเมืองพัทยา ได้ตั้งงบประมาณการก่อสร้างกว่า 300 ล้านบาท เพื่อให้เป็นที่จอดเรือแบบไฮดรอริก ที่จะสามารถรองรับเรือได้กว่า 300 ลำ แต่สุดท้ายในปี 2558 กลับถูกพายุดีเปรสชั่น “หว๋ามก๋อ” พัดถล่มจนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก
และทำให้ทุ่นของโครงการจำนวนมากจมลงสู่ทะเลจน ผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ทและผู้ประกอบการเรือโดยสารร้องเรียนว่า ส่งผลกระทบและเป็นอุปสรรคต่อการเข้าจอด
นายมาโนช เผยว่าที่ผ่านมาเมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่สำรวจไปแล้วเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาและในวันนี้ได้นำรถแบ็คโฮ เข้าตักทุ่นเก่าที่จมอยู่ใต้ทะเลให้ได้มากที่สุด ส่วนที่เหลืออาจจะมีการว่าจ้า งเรือบาร์จ หรือเรือขนส่งขนาดใหญ่ ช่วยนำขึ้นจากน้ำ
“ ทุ่นเหล่านี้เดิม เมืองพัทยา ใช้ทำเป็นท่าจอดเรือและอยู่ระหว่างที่ผู้รับจ้างกำลังจะส่งมอบงาน แต่เกิดพายุไต้ฝุ่น หว่ามก๋อ พัดถล่มจนทำให้ท่าจอดเรือแห่งนี้ใช้ประโยชน์ไม่ได้เพราะได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด และแม้จะมีการฟ้องร้องเผาผิดผู้ออกแบบต่อศาลปกครองไปแล้ว แต่สุดท้ายผลก็ออกมาว่าผู้รับจ้างไม่มีความผิด ทำให้ เมืองพัทยา ไม่สามารถตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อได้”
และปัจจุบันยังพบว่ามีเศษวัสดุจำพวกทุ่นลอยขนาดใหญ่อีกจำนวนหนึ่งจมอยู่ใต้ทะเลและได้ทับถมกันเป็นเวลานานหลายปี ทำให้ผู้ประกอบการเรือที่นำเรือมาจอดท่าแห่งนี้ใช้ด้วยความลำบาก
“ ทุ่นที่จัดเก็บขึ้นจากทะเลในวันนี้จะนำไปจัดเก็บที่สนามกีฬาแห่งชาติเมืองพัทยา ซอยชัยพฤกษ์ เนื่องจากมีจำนวนมากกว่า 200 ทุ่น โดยทุ่นเหล่านี้ในอนาคตเมืองพัทยา อาจจะนำไปจำหน่ายเพื่อจัดหาประโยชน์กับหน่วยงานราชการที่มองเห็นว่าทุ่นเหล่านี้พอจะมีประโยชน์นำไปใช้ได้บ้าง” รองนายกเมืองพัทยา กล่าว