ทำได้จริง! พลิกที่นาดินเค็ม เลี้ยงปูทะเลขายบนแผ่นดินอีสาน

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ทำได้จริง! เลี้ยงปูนิ่มกลางทุ่งนาอีสาน ศูนย์การเรียนรู้กลุ่มผู้เลี้ยงปลา บ้านหนองนางขวัญ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เผยพลิกดินเค็ม-น้ำกร่อย เลี้ยงปูนิ่มปูทะเลกลางทุ่งนา สร้างรายได้งาม ขายกิโลฯ ละ 400-600 บาท พร้อมสร้างแบรนด์ “ขอนแก่นซีฟู้ด by ฟาร์มทะเลบ้านไผ่” อยากกินปูไม่ต้องไปไกลถึงทะเลก็ได้กินปูสดๆ


ที่ศูนย์การเรียนรู้กลุ่มผู้เลี้ยงปลา บ้านหนองนางขวัญ หมู่ 9 ตำบลเมืองเพีย อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งศูนย์แห่งนี้เลี้ยง “ปูนิ่ม” หรือปูดำ ปูทะเล จำหน่าย เลี้ยงอยู่ภายในบ่อเลี้ยงที่จัดสร้างขึ้นกลางพื้นที่นาข้าวเดิม มีลักษณะน้ำกร่อย ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งผลิตสัตว์น้ำทะเลแห่งใหม่ของภาคอีสาน มีปูทะเลกว่า 2,000 ตัว เลี้ยงไว้ภายในศูนย์ดังกล่าว มีร้อยตรี สมพงษ์ ไชยสง อายุ 73 ปี เป็นหัวหน้าศูนย์ และเจ้าของที่ดิน

ร้อยตรี สมพงษ์ ไชยสง หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้กลุ่มผู้เลี้ยงปลา บ้านหนองนางขวัญ เปิดเผยว่า พื้นที่แห่งนี้เดิมทีชาวบ้านใช้ทำนา แต่ด้วยลักษณะดินเค็มและน้ำกร่อย ทำให้ได้ผลผลิตต่ำ เมื่อปี 2544 ชาวบ้านทยอยขายที่นาออก ตนจึงตัดสินใจซื้อสะสมจนได้พื้นที่รวม 56 ไร่ จากนั้นในปี 2545 ได้เริ่มทดลองใช้พื้นที่ 4 ไร่ทำนา และอีก 10 ไร่ทำบ่อเลี้ยงปลานิล แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ

จึงเลิกทำนาและหันมาเลี้ยงปลานิลเต็มรูปแบบ ส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าท้องถิ่น สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจนตัดสินใจลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพเกษตรกรเต็มตัว กระทั่งในปี 2547 ขยายกิจการเพิ่มเติม โดยเลี้ยงกุ้งขาว ปลาตะเพียน และปลากะพงน้ำกร่อย ซึ่งตลาดมีความต้องการสูงและจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี

ต่อมาได้รับคำแนะนำจาก นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ และทราบถึงลักษณะพื้นที่ดินเค็มน้ำกร่อยเหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์น้ำทะเล จึงเสนอแนวทางเลี้ยง “ปูทะเล” เพิ่มเติม พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดขอนแก่นเป็นพี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด และส่งร้อยตรี สมพงษ์ ไปศึกษาดูงานการเลี้ยงปูทะเลที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งอ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี

หลังจากกลับมา เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบค่าความเค็มในบ่อ พบว่าอยู่ในระดับ 20 พีพีที (ขณะที่น้ำทะเลมีค่าความเค็มประมาณ 30 พีพีที) ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการเลี้ยงปูทะเล จึงเริ่มต้นนำพันธุ์ปูจากจังหวัดจันทบุรีมาเลี้ยงกว่า 2,000 ตัว




ร้อยตรี สมพงษ์กล่าวต่อว่า วิธีการเลี้ยงปูทะเลที่ศูนย์แห่งนี้มีความพิถีพิถันและจำเพาะ โดยใส่ปู 1 ตัวต่อกล่องพลาสติกแต่ละใบ วางเรียงไว้ในแพพลาสติกภายในบ่อเพื่อให้ปูได้อยู่ในน้ำตลอดเวลา อีกทั้งมีการใส่ “แร่ธาตุจากทะเล” ลงในบ่อเพื่อปรับสภาพน้ำให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้ปูเติบโต แข็งแรง และลอกคราบเป็นปูนิ่มได้อย่างสมบูรณ์

ที่สำคัญ การดูแลต้องเป็นระบบหมุนเวียน เพราะทุก 4 ชั่วโมงต้องมีเจ้าหน้าที่หรือสมาชิกกลุ่มสับเปลี่ยนกันเข้ามาตรวจสอบกล่องเลี้ยงเพื่อคัดแยกปูที่ลอกคราบเป็นปูนิ่ม หากพลาดช่วงเวลาสั้นๆ ปูนิ่มก็จะกลายเป็นปูเปลือกแข็งทันที และต้องปล่อยเลี้ยงต่ออีกระยะ การสังเกตปูนิ่มทำได้ง่าย หากกล่องเลี้ยงมีปู 2 ตัวเมื่อเปิดออกแสดงว่าตัวหนึ่งเป็นคราบเก่า ส่วนอีกตัวคือตัวปูนิ่มที่เพิ่งลอกคราบ ต้องรีบนำขึ้นมาน็อกน้ำแข็งทันทีก่อนส่งขายให้ลูกค้า ราคาจำหน่ายปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 400-600 บาท




ทั้งนี้ ศูนย์ยังไม่เปิดจำหน่ายหน้าฟาร์ม เพราะกำลังผลิตยังมีจำกัด ลูกค้าต้องสั่งจองล่วงหน้าเท่านั้น เพื่อให้สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามจำนวนและคุณภาพมาตรฐาน จากดินเค็มน้ำกร่อยไร้ค่าในอดีต วันนี้เราพลิกฟื้นให้กลายเป็นทะเลกลางทุ่ง สร้างอาชีพใหม่ที่มั่นคงให้คนบ้านไผ่ และวางเป้าหมายต่อยอดแบรนด์ ‘ขอนแก่นซีฟู้ด by ฟาร์มทะเลบ้านไผ่’ ให้เป็นต้นแบบการเลี้ยงสัตว์ทะเลในพื้นที่อีสาน เรียกได้ว่ายกทะเลมาไว้ที่ อ.บ้านไผ่ เพื่อให้คนได้กินอาหารทะเลสดๆ โดยไม่ต้องไปไกลถึงทะเล พร้อมกันนี้ ทางศูนย์ยังเตรียมต่อยอดนำสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ มาเลี้ยงจำหน่ายในอนาคตอีกด้วย