ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ประธานเครือข่ายปลูกกัญชาโคราชซัดนโยบายเก่า ทำชาวบ้านล่มทั้งระบบ ต้องปลูกผักสวนครัวในแปลงกัญชาประทังชีวิต ยกมือหนุนรัฐบาลใหม่ควบคุมกัญชาเพื่อการแพทย์ วอนชดเชยความเสียหายด่วน!
จากกรณีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคเพื่อไทย ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นการปรับปรุงกฎระเบียบครั้งสำคัญจากประกาศเดิมเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 โดยกำหนดให้ช่อดอกกัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม จำหน่ายได้เฉพาะตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น ห้ามสูบในสถานที่ประกอบการ และกำหนดเงื่อนไขเข้มงวดในการศึกษาวิจัย ส่งออก และแปรรูปเพื่อการค้า ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อควบคุมการใช้กัญชาให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด
ซึ่งสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมกัญชาในประเทศไทย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง หลังพรรคภูมิใจไทยที่เคยผลักดันนโยบายกัญชาเสรี ประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (25 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงปลูกกัญชา เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ต.หนองบัวศาลา พบว่าโรงกัญชาที่ลงทุนไปกว่า 10 ล้านบาทถูกปล่อยทิ้งให้รกร้าง บางส่วนมีการปลูกพืชผักสวนครัว เช่น พริก มะเขือ หอมแบ่ง และผักบุ้ง แทนการปลูกกัญชา โดยนายมนตรี เยี่ยมสูงเนิน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ ได้นำไปดูห้องเก็บช่อดอกกัญชาอบแห้งที่แพกถุงไว้ และมีการควบคุมอุณหภูมิด้วยการเปิดแอร์ไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาคุณภาพของช่อดอกกัญชาไว้ให้ดีที่สุด
ช่อดอกกัญชาเหล่านี้มีปริมาณรวมกันกว่า 100 กิโลกรัม จากการเก็บล็อตล่าสุดเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2567 และตากแห้งไว้ แต่ขายไม่ออก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากนโยบายกัญชาเสรี ซึ่งนอกจากช่อดอกที่ขายไม่ออกแล้ว ยังมีราก ใบ และต้นกัญชาอบแห้งอีกจำนวนมากที่ค้างสต๊อกขายไม่ออกเช่นกัน
นายมนตรี เยี่ยมสูงเนิน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ กล่าวว่า "ผมต้องขอขอบคุณรัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊งที่ได้ปรับเปลี่ยน ครม. และมีการประกาศนโยบายควบคุมกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างจริงจัง ซึ่งแตกต่างจากนโยบายในอดีตที่ทำให้เกิดปัญหามากมาย วิสาหกิจของผมเริ่มดำเนินการตามกฎหมายเพื่อปลูกกัญชาเพื่อการแพทย์ตั้งแต่ปี 2564 และได้รับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 แต่เพียงหนึ่งวันต่อมาก็มีการประกาศปลดกัญชาจากบัญชียาเสพติด ประเภท 5 ซึ่งทำให้เกิดภาวะ “กัญชาเสรี” โดยไม่มีมาตรการควบคุมรองรับ ส่งผลให้การปลูกกัญชาให้ได้มาตรฐานตามกฎหมายเดิม ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องมาหลายปี"
ตนเห็นว่านโยบายกัญชาเสรีในปี 2565 เป็นต้นมาส่งผลให้เด็กและเยาวชนจำนวนมากเข้าถึงการสูบและเสพกัญชาโดยไม่มีการควบคุม ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่ออนาคตของชาติ ส่วนวิสาหกิจชุมชนที่ทำตามกฎหมายกลับได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่สามารถขายผลผลิตได้ ทั้งช่อดอก ราก ใบ และต้นที่เคยสามารถจำหน่ายได้ กลับกลายเป็นสินค้าค้างสต๊อกจำนวนมาก และยังสูญเสียโอกาสจากคำสั่งซื้อที่ถูกยกเลิกทั้งหมดหลังการประกาศนโยบายเสรีในครั้งนั้น
ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน พิจารณาให้มีการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศอย่างเป็นธรรม เพราะไม่เพียงแต่ตนเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังรวมถึงสมาชิกอีกกว่า 450 ชีวิต ซึ่งประกอบไปด้วยลูกหลาน เกษตรกร ข้าราชการเกษียณ และอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท และยังมีพันธะทางวิชาการร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาอีกด้วย ขณะนี้วิสาหกิจของตนได้ปรับตัวด้วยการปลูกผักสวนครัวในแปลงกัญชา ใช้บริโภคภายในกลุ่มสมาชิกไปก่อน เพื่อรอความชัดเจนของนโยบายใหม่ และมีแผนจะหารือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏฯ
รวมถึงวิสาหกิจชุมชนแม่ข่ายและลูกข่าย เพื่อวางแผนการกลับมาผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์ที่มีมาตรฐานจริงๆ ภายใต้แนวทางเกษตรอินทรีย์ พร้อมยื่นขอรับรองมาตรฐาน GACP ต่อไปในอนาคต ทั้งหมดนี้เพื่อให้เกิดการควบคุมที่ชัดเจน ทุกฝ่ายสามารถเดินหน้าไปได้อย่างถูกต้อง และไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำรอยเหมือนในอดีตอีก” นายมนตรีกล่าว