เชียงราย - ผู้กองปอยเปตยังอาละวาดหลอกซ้ำหลอกซ้อน..ล่าสุดพบอ้างชื่อ สว.สืบฯ เชียงราย หลอกอดีตเหยื่อแก๊งคอลฯ จ่อรีดเงินอีกรอบ โชคดีผู้เสียหายเป็นเหมือนงูกลัวเชือกกล้วย โทร.ถามโรงพักโดยตรงอีกรอบก่อนเสียรู้ซ้ำ
ตำรวจ ภ.จว.เชียงรายได้ออกมาประกาศแจ้งเตือนทางเพจและเครือข่าย เช่น สภ.เชียงของ จ.เชียงราย ฯลฯ ว่าขณะนี้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงของ จ.เชียงราย โทรศัพท์ไปหลอกประชาชนหลายรายที่เคยตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมแก๊งคอลฯ ที่ก่อเหตุได้แล้ว จึงขอให้ผู้เสียหายนำหลักฐานทางการเงินส่งไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบด้วย พร้อมอ้างชื่อเป็น ร.ต.อ.บัญชา ศรีกันชัย พนักงานสอบสวน สภ.เชียงของ
หลังวางสายมีผู้เสียหายหลายรายไหวตัว โทรศัพท์ไปสอบถามที่ สภ.เชียงของ โดยตรง และทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกลับไปว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวนอยู่ที่ สภ.เชียงของ แต่อย่างใด
ล่าสุดผู้ที่มีชื่อเหมือนนายตำรวจที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างคือ ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา ศรีกันชัย ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อ ร.ต.อ.กรนิธิ นันตา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เชียงของ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ พ.ต.อ.เกรียงศักดิ์ ตงศิริ ผกก.สภ.เชียงของ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนและประกาศเตือนประชาชนเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพแล้ว
ว่าที่ พ.ต.ต.บัญชากล่าวว่า ทราบเรื่องจาก สภ.เชียงของ เพราะมีเจ้าทุกข์หลายรายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงไปแล้วครั้งหนึ่งโทรศัพท์ไปสอบถาม เนื่องจากมีคนอ้างชื่อตนและอ้างว่าสังกัด สภ.เชียงของ ได้จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เคยหลอกเจ้าทุกข์หลายรายดังกล่าวได้แล้ว จากนั้นสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเจ้าทุกข์ ข้อมูลคดีที่เคยแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้
แต่ยังไม่ถึงขั้นให้ส่งเอกสารทางการเงินหรือให้โอนเงินไปให้เพราะเจ้าทุกข์หลายรายซึ่งอาศัยอยู่ในหลายจังหวัด เช่น ชลบุรี สุรินทร์ ลำพูน ฯลฯ ได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงของ โดยตรงเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบคาดว่ามีการอ้างชื่อตนโทรศัพท์และโทร.ไลน์ไปหาเหยื่อที่เคยถูกหลอกประมาณ 5-6 ราย จึงฝากเตือนประชาชนรายอื่นๆ ที่อาจได้รับการติดต่ออีกให้สอบถามข้อมูลจากสถานีตำรวจใกล้บ้าน โดยหากมีผู้อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ก็ไม่ควรเร่งรีบส่งข้อมูล เอกสารทางการเงิน หรือโอนเงินไปให้อย่างเด็ดขาด ส่วนคนที่จะเปิดบัญชีให้แก๊งคอลฯหรือบัญชีม้าถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และจะเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่จะถูกดำเนินคดีก่อนที่จะขยายผลไปถึงคนอื่นๆ ในแก๊งเสียอีก
สำหรับสายโทร.เข้าของมิจฉาชีพดังกล่าวมีการใช้ชื่อของว่าที่ พ.ต.ต.บัญชา แต่เปลี่ยนยศเป็น ร.ต.อ.และระบุต้นสังกัดไม่ตรงกับความเป็นจริง รวมทั้งใช้ภาพของนายตำรวจนายหนึ่งที่อยู่ใน จ.เชียงราย สวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นรูปโปรไฟล์ และมีรูปหลังเป็น สภ.เชียงของ เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวอยู่จริง
ซึ่ง พ.ต.ต.บัญชาคาดว่าคนร้ายอาจจะค้นชื่อและภาพมาจากกูเกิลและคัดชื่อที่เคยปรากฏในข่าวสารต่างๆ จากนั้นหาภาพมาประกอบให้ดูน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเหยื่อแต่ละคนมีประสบการณ์เพราะเคยถูกหลอกมาก่อนหน้านี้แล้วจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าหน้าที่โดยตรงจึงไม่ตกเป็นเหยื่อซ้ำสอง