พิษณุโลก - ชุดสืบสวน 6 เปิดปฏิบัติการล่าเครือข่ายลวงนักธุรกิจสาวกำแพงเพชร ลงทุนเทรดหุ้นเทรดทอง สูญกว่า 18 ล้าน มูลค่าความเสียหาย กว่า 18 ล้าน ล่าสุดตามรวบคนควบคุมสั่งการ/ม้าเจ้าของบัญชี-ม้ากดเงิน ถึงชลบุรีอีก 2 ราย เบ็ดเสร็จจับแล้ว 10 เหลือผู้จัดการการเงินอีก 1 ราย
วันนี้ (25 มิ.ย. 68) ชุดสืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 ได้ติดตามจับกุม น.ส.สโรชา กับนายสมเกียรติ ได้ที่ จ.ชลบุรี หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบว่าทั้งคู่ร่วมทำหน้าที่ควบคุม/สั่งการ ม้าบัญชีธนาคารและม้าถอนเงิน เครือข่าย "หลอกลงทุนเทรดทองคำ" ซึ่งมีผู้เสียหายอยู่ในท้องที่จังหวัดกำแพงเพชรถูกหลอกลงทุนเสียหายกว่า 18 ล้านบาท
สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องโดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” รวม 11 ราย จับกุมแล้ว 10 คน คงเหลือ 1 คน ดังนี้
1. นายต่อศักดิ์ อายุ 43 ปี ชาว ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ทำหน้าที่บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน ซึ่งจับกุมตัวได้ที่ จ.อุดรธานี เมื่อ 23 มิ.ย. 2568
2. นายสมชาย อายุ 45 ปี ชาว ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำหน้าที่บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน จับกุมที่ จ.ปทุมธานี เมื่อ 24 มิ.ย. 2568
3. นายฉัตรมงคล อายุ 22 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำหน้าที่บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน จับกุมที่ จ.ปทุมธานี เมื่อ 24 มิ.ย. 2568
4. น.ส.อริสรา อายุ 21 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.แม่ลาน อ.ลี้ จ.ลำพูน ทำหน้าที่บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน จับกุมที่ จ.ลำพูน เมื่อ 24 มิ.ย. 2568
5. นายกรวิชญ์ อายุ 19 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.ป่าตุ้ม อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ทำหน้าที่บัญชีม้า+ม้าถอนเงิน ซึ่งได้ติดตามจับกุมได้ที่ จ.เชียงราย เมื่อ 24 มิ.ย. 2568
6. นายแสนคม หรือคม อายุ 44 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.บ้านโพธิ์ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ทำหน้าที่ผู้รวบรวมเงิน ถูกจับกุมได้ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อ 23 มิ.ย. 2568
7. นายธนอนันต์ หรือพอล อายุ 35 ปี อยู่ที่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำหน้าที่รวบรวมเงิน จับกุมที่ จ.ปทุมธานี เมื่อ 24 มิ.ย. 2568
8. นายมณชัย หรือคิม อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ซอยสุขุมวิท 69 พระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่ Boss รวบรวมเงิน ถูกติดตามจับกุมได้ที่ด่านห้วยไร่ จ.แพร่ เมื่อ 23 มิ.ย. 2568
9. นายสมเกียรติ หรือต่าย อายุ 36 ปี อยู่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำหน้าที่ผู้คุมบัญชีม้า พาไปถอนเงิน จับได้แล้ววันนี้ 25 มิ.ย. 68 ที่ จ.ชลบุรี
10. น.ส.สโรชา หรือซิม อายุ 37 ปี อยู่ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำหน้าที่ผู้คุมบัญชีม้า พาไปถอนเงิน ตรวจยึดของกลาง และทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ จับแล้ววันนี้ (25 มิ.ย. 68) ที่ จ.ชลบุรี
ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับรายที่ 11 ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี คือ นายพรชัย หรือตู่ อายุ 43 ปี มีภูมิลำเนาอยู่คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่ผู้จัดการการเงิน (อยู่ระหว่างจับกุม)
พร้อมยึดของกลางหลายรายการ คือ 1. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 10 เครื่อง 2. สมุดบัญชีกสิกรไทย 3 ฉบับ 3. บัตร ATM ธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ 4. สมุดบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาต 1 ฉบับ 5. สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ 1 ฉบับ 6. สมุดบัญชีธนาคารกรุงเทพ 1 ฉบับ 7. สลิปเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ 8. เงินสดรัฐบาลไทย จำนวน 132,040 บาท 9. ธนบัตรจีน 1 หยวน 4 ฉบับ รวม 4 หยวน / 100 หยวน 122 ฉบับ รวม 12,200 หยวน / 5 หยวน 1 ฉบับ 10. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ yaris สีขาว ทะเบียน 8 กษ 8624 กทม. จำนวน 1 คัน 11. รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ mazda สีขาว ทะเบียน 8 กน 1010 กทม. จำนวน 1 คัน
การติดตามจับกุมผู้ต้องหาแก๊งนี้มีขึ้นหลังพนักงานสอบสวนประจำ สภ.เมืองกำแพงเพชรได้แจ้งให้ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.6 ทราบว่าเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 นางสุธามาศ ผู้เสียหาย ถูกชายไม่ทราบตัวตนใช้บัญชีแอปพลิเคชันติ๊กต็อก ชื่อ Bank official ติดต่อทางแอปพลิเคชันไลน์ ชักชวนเทรดหุ้นเทรดทอง
โดยผู้ใช้แอปพลิเคชันไลน์ชื่อ Bank นี้ได้ย้ำกับนางสุธามาศว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีที่เทรดหุ้นและทองมานี้ไม่เคยขาดทุน และมีกำไรมาตลอด และได้หลอกลวงชักชวนให้ผู้เสียหายนำเงินไปร่วมลงทุนเทรดทอง อ้างว่าจะได้ค่าตอบแทนอย่างสูง จนนางสุธามาศยอมลงทุนด้วย
ครั้งแรกๆ แสร้งแสดงผลกำไรและสามารถเบิกถอนมาได้จริง จากนั้นเมื่อนางสุธามาศเพิ่มการลงทุนได้อ้างเหตุต่างๆ ให้นางสุธามาศโอนเงินไปร่วมลงทุนเป็นเงินรวม 18,838,550 บาท โดยลักษณะการหลอกลวงของผู้ต้องหาเป็นลักษณะการหลอกลวงประชาชน เข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชน”
จากการสืบสวนพบว่าเป็นเครือข่ายร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฟอกเงินหลอกลงทุนการเทรดหุ้นเทรดทอง โดยขบวนการดังกล่าวจะมีการหาบัญชีม้า เมื่อมีเงินที่ได้จากการหลอกลวงเข้าบัญชีแล้ว ผู้ต้องหาที่เป็นผู้สั่งการจะแจ้งจุดพิกัดนัดเครือข่ายไปกดเงิน แล้วนำไปมอบให้ BOSS ใหญ่นายทุนชาวจีนต่อไป
สำหรับบัญชีม้าถอนเงินจะได้รับค่าจ้าง 1,000-2,000 บาทต่อบัญชี, คนควบคุมบัญชีม้าไปถอนเงินจะได้รับค่าจ้าง 3,000 บาทต่อบัญชี, คนรวบรวมเงินจะได้ค่าจ้าง 1% ของยอดเงินที่รวบรวมส่งนายทุน ทั้งนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลติดตามคนร้ายต่อไป