สุรินทร์ - ชาวกัมพูชาแห่กลับบ้านผ่านด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังฝ่ายความมั่นคงไทยขอความร่วมมือบรรดาแรงงานต่างด้าวพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาให้เดินทางกลับประเทศไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะปกติ ย้ำไม่ใช่การผลักดันแต่เป็นการขอความร่วมมือด้วยสัมพันธ์ที่ดี ตามแผนความมั่นคงและนำร่องพื้นที่ชายแดนช่องจอม ทำพ่อค้าแม่ค้าเขมรปิดร้านกลับประเทศเกลี้ยงทำตลาดช่องจอมเงียบ
วันนี้ (25 มิ.ย. 68) เวลาประมาณ 09.30 น. เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง ตม.สุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม และตลาดโดยรอบ ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อทำความเข้าใจและขอความร่วมมือให้บรรดาแรงงานชาวกัมพูชา ทั้งที่มีบัตรแรงงานต่างด้าว พาสปอร์ต และบอเดอร์พาส ที่ถูกต้อง หรือใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้วก็ตาม ได้ขอความร่วมมือเชิญให้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารยืนยันว่าไม่ใช่การผลักดัน แต่เป็นการขอความร่วมมือและทำความเข้าใจด้วยสัมพันธ์ที่ดี โดยนำร่องเริ่มแผนดังกล่าวที่ชายแดนช่องจอมก่อน ตามแนวทางฝ่ายความมั่นคง
ขณะที่ชาวกัมพูชาพากันปิดร้านค้าเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก เหลือเพียงร้านค้าของคนไทยบางส่วนเท่านั้นที่ยังเปิดค้าขายกันอยู่
สวนที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอมพบว่าชาวกัมพูชานำสิ่งของจำเป็น รถยนต์และรถจักรยานยนต์รอข้ามแดนเป็นจำนวนมาก โดยทางกัมพูชาเปิดให้ข้ามแดนไปได้ในเวลา 10.00 น. โดยพบว่าฝั่งกัมพูชา เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานของกัมพูชาได้มาตั้งเต็นท์และโต๊ะให้บริการชาวกัมพูชาที่ต้องการทำงาน โดยอ้างว่ามีตำแหน่งงานว่างรองรับด้วย แต่ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ที่มาค้าขายฝั่งไทยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากค้าขายอยู่ที่ประเทศไทย
ทั้งนี้ ประตูด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ประจำด่านได้มีการเปิดตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามหลักมนุษยธรรม โดยเริ่มเปิดเวลานี้มาตั้งแต่เมื่อวาน (24 มิ.ย. 68) ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงวันนี้พบว่านักเรียนชาวกัมพูชาประมาณ 4-5 คนต้องการจะข้ามแดนมาเรียนที่ฝั่งไทย แต่ทางเจ้าหน้าที่กัมพูชาไม่อนุญาตให้เข้ามาฝั่งไทยแต่อย่างใด ส่วนชาวไทยที่ตกค้างฝั่งกัมพูชา ได้ข้ามแดนเข้ามาประมาณ 30 คนพร้อมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือบรรดาแรงงานชาวกัมพูชาที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนช่องจอมอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ให้เดินทางกลับประเทศกัมพูชาไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะปกติ
นั้น ล่าสุดที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ชาวกัมพูชาทั้งที่ทราบข่าวแล้วและยังมีบางส่วนที่ยังไม่ทราบข่าวกำลังมีการบอกต่อๆกันและอยู่ระหว่างเก็บสิ่งของจำเป็นและรอรับลูกที่เรียนหนังสือฝั่งไทยกันอยู่และช่วงบ่ายจึงจะพากันไปรวมตัวกันที่ฐานทหารกลาง ทางเข้าด่านช่องจอม อีกครั้งเพื่อรอเจ้าหน้าที่ทหารไทยประสานกับเจ้าหน้าที่กัมพูชาทำการเปิดประตูให้ชาวกัมพูชากลับประเทศในช่วงบ่ายอีกครั้ง
นางชนากานต์ ลีพิบูลย์สวัสดิ์ จัดหางาน จ.สุรินทร์ รายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านแรงงานต่างด้าวใน จ.สุรินทร์ ว่า มีแรงงานต่างด้าวขอมีใบอนุญาตทำงานตามกฎหมายใน จ.สุรินทร์ จำนวน 2,053 คน แยกเป็น ชาวกัมพูชา 1,364 คน, ลาว 245 คน, เมียนมา 233 คน, เวียดนาม 1 คน สัญชาติอื่นๆ 210 คน เช่น ฟิลิปปินส์ แคเมอรูน อังกฤษ และจีน ฯลฯ โดยแรงงานกัมพูชาได้รับอนุญาตมากที่สุด คือ กรรมกร และผู้รับใช้ในบ้าน ประเภทกิจการที่จ้างแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มากที่สุด 5 อันดับ ประกอบด้วย ค้าส่ง ค้าปลีก แผงลอย, จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม, กิจการก่อสร้าง, เกษตรและปศุสัตว์ และงานบ้าน
ทั้งนี้ แรงงานชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะขอความร่วมมือให้กลับประเทศก่อนเป็นการดำเนินการนำร่อง ตามแผนงานความมั่นคง ส่วนพื้นที่อำเภอชั้นในและตัวเมืองสุรินทร์ต้องรอติดตามสถานการณ์อีกครั้ง
