ตราด- อปท.หลายแห่งใน จ.ตราด ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนกัมพูชา เร่งสร้างหลุมหลบภัยเพิ่ม-ปรับปรุงหลุมเดิม-ซ้อมแผนอพยพสร้างความเข้าใจชาวบ้าน รับมือเหตุไม่คาดฝันจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
วันนี้ ( 22 มิ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด ว่าแม้จะยังคงเป็นปกติและไม่มีเหตุรุนแรง หรือการปะทะกันเหมือนบ้านช่องบก จ.อุบลราชธานี แต่ จ.ตราด ซึ่งมีพื้นที่แนวชายแดนทางบกติดกับประเทศกัมพูชา ประมาณ 165 กิโลเมตร แต่ชาวบ้านในพื้นที่ก็ไม่ได้วางใจกับสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ยังคงเตรียมความพร้อมทั้งบนเขาและด้านล่างตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับฝ่ายปกครองทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้านที่ไม่ประมาท
หลังนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้เรียกประชุมนายอำเภอทุกแห่งเพื่อให้นำชาวบ้านทำการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และสำรวจหลุมหลบภัยในพื้นที่ชายแดนทุกแห่งซึ่งหากพบว่ายังไม่พอ ก็ให้เร่งดำเนินจัดทำเพิ่มเติมในทันที
รวมทั้งยังได้แบ่งงานให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ มากกว่า 10 ฝ่าย อาทิ กองอำนวยการช่วยเหลือ รับบริจาค ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบหากเกิดเหตุการณ์จริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสน และสร้างความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ให้ตรงกัน
ขณะที่ นายเชิดศักดิ์ ชุ่มนาเสียว นายอำเภอคลองใหญ่ เผยว่าทางอำเภอซึ่งมีพื้นที่ 3 ตำบลติดกับ จ.เกาะกง ของกัมพูชา ได้ทำการซ้อมแผนอพยพให้กับนักเรียนและบุคลากรของโรงเรียนครบแล้วทุกแห่ง ซึ่ง โรงเรียนบางแห่งมีหลุมหลบภัยอยู่ใต้อาคารเรียน ที่มีความแข็งแรงและปลอดภัย
นอกจากนั้นยังได้ปรับปรุงหลุมหลบภัยที่เคยมีอยูให้พร้อมรับสถานการณ์
เช่นดียวกับที่ อ.บ่อไร่ ที่ได้จัดซักซ้อมแผนและเส้นทางอพยพให้กับเด็กนักเรียน เพื่อให้สามารถเข้าหลุมหลบภัยได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน
ด้าน นายเกรียงไกร ปัญญาพงษธร นายอำเภอเมืองตราด ได้สั่งการให้ ผู้บริหารท้องถิ่นใน3 ตำบลที่มีพื้นที่ติดกับ จ.โพธิสัต ประเทศกัมพูชา ประกอบด้วย ต.ชำราก, ตะกาง และต.แหลมกลัด เตรียมการซักซ้อมแผนอพยพและทำหลุมหลบภัยเพิ่ม พร้อมปรับปรุงหลุมหลบภัยที่มีอยู่เดิมเมื่อ 40 ปีแล้วให้พร้อมใช้งานเช่นกัน
" โดยเฉพาะใน ต.ชำราก ที่ขณะนี้ชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่คนเถ้า คนแก่ที่มีประสบการณ์สมัยยุทธการชำรากมาแล้ว ก็มีความพร้อมแล้วเช่นกัน"
นอกจากนั้นเทศบาลตำบลชำราก และชาวบ้านยังได้รับการสนับสนุนยางรถยนต์เก่าจากร้านซ่อมรถยนต์ รวมทั้งยังมีประชาชนในพื้นที่นำมามอบให้เพื่อทดแทนกระสอบทรายเก่าที่ใช้เป็นบังเกอร์หน้าหลุมหลบภัยที่ขณะนี้อยู่ในสภาพใช้การไม่ได้แล้ว โดยได้ทำเป็นบังเกอร์ที่มีความสูงได้ 2-3 เมตรที่มีความแข็งแรงและทนทานกว่ากระสอบทราย
………………………
ส่วน นายธนวัฒน์ รัตนธรรม นายกเทศบาลตำบลตะกาง เผยว่าพื้นที่ต.ตะกาง และ ต.ชำราก เคยเป็นพื้นที่สู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารเวียดนามในเหตุการณ์ยุทธการชำราก เมื่อ 40ปีก่อน ซึ่งในครั้งนั้นทหารไทยเสียชีวิต 9 คน และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ซึ่งเทศบาลฯ ได้เร่งดำเนินการจัดทำหลุมหลบภัยเพิ่มเพื่อให้ครบ 12 แห่ง หลังปัจจุบันมีเพียง 2 แห่ง