xs
xsm
sm
md
lg

บุกจับ "แก๊งเกาหลีเทา คอลเซ็นเตอร์” ใช้พัทยาเป็นฐานหลอกคนชาติเดียวกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​- ตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังหลายหน่วยบุกค้นพลูวิลล่าหรูในเมืองพัทยา จับ "แก๊งเกาหลีเทา คอลเซ็นเตอร์” หลอกลงทุนหุ้น โรแมนซ์สแกม เชื่อย้ายฐานมาจากกัมพูชา ใช้พัทยาเป็นฐานตุ๋นเหยื่อชาวเกาหลีด้วยกัน

จากกรณีตำรวจท่องเที่ยว ร่วมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจ สภ.บางละมุง นำกำลังบุกเข้าช่วยชาวเกาหลีใต้ ที่ถูกลักพาตัวมายังบ้านพลูวิลล่าใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่พบว่ามีชาวเกาหลีใต้อยู่ในบ้านเป็นจำนวนมาก อีกทั้งภายในบ้านยังพบคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ รวมกว่า 50 เครื่อง 

จึงควบคุมตัวคนในบ้านทั้งหมดเป็นชายชาวเกาหลีใต้ รวม 22 คน ที่กล่าวอ้างว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินกู้ที่ประเทศเกาหลี แต่ใช้ประเทศไทย เป็นสำนักงานใหญ่ในการประสานงานดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานความผิด" อั้งยี่" นั้น

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ( 21 มิ.ย.) พ.ต.อ. ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.2 บก.ทท.1 เผยถึงการบุกเข้าจับกุมดังกล่าวว่า หลังสถานทูตประเทศเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย ได้ประสานมายังกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวว่ามีพลเมืองชาวเกาหลีใต้ ถูกลักพาตัว และบังคับให้ทำงาน เกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี 

จึงสั่งการให้ชุดสืบสวน ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ลงพื้นที่หาข่าวจนพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของบุคคลที่มีการแจ้งว่าถูกลักพาตัวอยู่ในบ้านพลูวิลล่า หลังดังกล่าว

 


พร้อมขอกำลังสนับสนุนทั้งตำรวจท่องเที่ยว , ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง , และตำรวจ สภ.บางละมุง เข้าปิดล้อมบ้านหลังดัวกล่าวซึ่งพบกลุ่มชาวเกาหลีใต้ กำลังนั่งเรียงรายทำงานอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์และเมื่อเห็นตำรวจต่างพากันวิ่งหนีไปคนละทิศทาง บางคนกระโดดหนีลงมาจากชั้น 2 จนได้รับบาดเจ็บ 

"ขณะนี้ยืนยันแล้วว่าบุคคลที่ถูกควบคุมตัวได้ภายในบ้าน มีทั้งหมด 21 คนเป็นผู้ชายทั้งหมด โดยแบ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ 20 คน และคนจีน 1 คน ส่วนพลเมืองชาวเกาหลีใต้ ที่มีการอ้างว่าถูกลักพาตัวมาทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากการพิสูจน์ทราบยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวมีอยู่ตัวตนอยู่จริง และกำลังนั่งทำงานรวมอยู่กับชาวเกาหลีใต้คนอื่นๆ ซึ่งตำรวจก็ได้ประสานไปแจ้ง กลับยังเจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย เพื่อแจ้งกับทางญาติว่าบุคคลดังกล่าว ยังปลอดภัยดี"

ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถยึดได้ในบ้านหลังดังกล่าวตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึด พร้อมทั้งประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.) เข้าทำการตรวจสอบดีเอ็นเอและลายนิ้วมือ เพื่อใช้ในการประกอบสำนวนคดี


 อีกทั้งตำรวจยังพบหลักฐานสำคัญเป็นกระดานไวท์บอร์ด ถูกเขียนด้วยภาษาเกาหลี ลักษณะของข้อความ “ เชิญชวนลงทุน ให้เล่นหุ้น รวมถึงอัตราค่าตอบแทนที่มูลมีมูลค่าสูงถึง 500 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 12 ล้านบาท “ 

 และยังพบข้อความในลักษณะเข้าข่ายโรแมนซ์สแกม เพื่อไปหลอกเหยื่อให้หลงรัก หลงเชื่อ แล้วใช้เล่ห์ลวงให้โอนเงินให้อีกด้วย 

ส่วนการตรวจสอบหนังสือเดินทางรวมถึงวีซ่า พบว่าทั้งหมดถือวีซ่านักท่องเที่ยวและยังไม่พบว่ามีผู้ใดมีสถานะโอเวอร์สเตย์ โดยมีชาวเกาหลี 2 รายคน เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย

" ขณะที่ข้อกล่าวหา "อั้งยี่" ขอกลับไปสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมว่าเข้าข่ายกระทำความผิดในข้อหานี้หรือไม่ เนื่องจากข้อหานี้จะต้องมีการทำข้อมูลรายงานการสืบสวน ประกอบสำนวนคดี" 

ผกก.2 บก.ทท. ยังกล่าวอีกว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะเพิ่งย้ายฐานมาจากที่อื่นและอาจเป็นไปได้ว่าน่าจะย้ายมาจากเขตชายแดนกัมพูชา หลังจากที่ถูกรัฐบาลไทยกดดันอย่างหนักจนมาสร้างฐานในประเทศไทย 

แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจท่องเที่ยวอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงการนำของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบเพื่อขยายผลเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการเอาผิด กลุ่มชาวเกาหลี และคนจีนกลุ่มนี้ต่อไป" 




กำลังโหลดความคิดเห็น