เชียงราย - พบเหมืองแรร์เอิร์ทขุดพื้นที่รัฐคะฉิ่นมาแล้วกว่า 3,000 หลุม จ่อย้ายลงรัฐฉาน-ต้นน้ำกก ทำวิกฤตสายน้ำเหนือทั้งแม่กก-น้ำสาย-น้ำรวก-น้ำโขง ปนเปื้อนรุนแรงขึ้น แต่รัฐบาลไทยเงียบกริบ นักวิชาการจวกแนวคิดสร้างฝายดักตะกอน ทั้งผิดหลัก ทั้งไม่ได้ผล แนะจี้ "สีจิ้นผิง" โดยตรง
"ปอยหลวงเพื่อแม่น้ำกก สาย รวก โขง" ซึ่งเครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกก สาย รวก โขง จัดขึ้นสุดสัปดาห์นี้ ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงราย ทั้งการแสดงดนตรี นิทรรศการศิลปะ กิจกรรมวัฒนธรรม รวมทั้งเวทีเสวนาจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ที่เกี่ยวข้อง
เช่น ชาวคะฉิ่น ประเทศเมียนมา ที่ต้องเจอกับผลกระทบจากเหมืองแร่แรร์เอิร์ท, ผศ.ดร.สิตาวงศ์ พิลัยหล้า ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ น.ส.เพียรพร ดีเทศน์ ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) ดร.สืบสกุล กิจนุกร สำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อาจารย์นคร พงษ์น้อย ผู้อำนวยการอุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวงหรือไร่แม่ฟ้าหลวง ฯลฯ
ท่ามกลางภาคประชาชนเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เนื่องจากคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก และแม่น้ำโขงบางส่วน ยังคงพบการปนเปื้อนสารหนูเกินมาตรฐาน ขณะที่ต้นแม่น้ำในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา โดยเฉพาะในเขตปกครองของชนกลุ่มน้อยว้ามีการทำเหมืองแร่ทองคำ แมงกานีส และแรร์เอิร์ท บางแห่งตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย ที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของการพบสารปนเปื้อน
ผศ.ดร.ศิตางศุ์ พิลัยหล้า ภาควิชาวิศวกรรมทรัพยากรน้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า สารหนูและอื่นๆ มีผลต่อสุขภาพแน่นอน ทั้งยังระเหย-กระจายเมื่อเกิดน้ำท่วมได้อีกด้วย เมื่อมองจากต้นเหตุของปัญหาพบเหมืองแร่ต่างๆ ตั้งอยู่ในเขตของว้า และผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือประเทศจีน
ขณะที่ไทยไม่ได้อะไรเลยแต่ต้องได้รับผลกระทบ จึงถือว่าเราโชคร้าย แล้วทำไมรัฐบาลถึงไม่กล้าพอที่จะไปพูดคุยกับประเทศจีน ทั้งๆ ที่มีกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถทำได้แต่กลับไม่ทำ ขณะที่เหมืองแร่ต้นแม่น้ำเหล่านี้ทราบว่าไม่มีระบบบำบัดตะกอนจากเหมืองเลย เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ไม่เคยมีเขื่อนดักตะกอน แต่ในต่างประเทศจะสร้างให้อยู่ลุ่มเหมืองแต่ไม่ให้อยู่ในลำน้ำ
“เขื่อนดักตะกอนไม่เหมือนฝายน้ำล้น แนวคิดคือต้องไม่ให้ทั้งน้ำและตะกอนล้นฝายไป แต่ไทยเราคิดกันว่าให้น้ำล้นไปแต่ดักเพียงตะกอนเอาไว้ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วทั้งน้ำและตะกอนต่างได้รับการปนเปื้อนมาเหมือนกัน ดังนั้นการจะนำมาสร้างในแม่น้ำของประเทศไทยจึงเป็นแนวคิดที่ไม่ตรงกับหลักการสร้างเขื่อนดักตะกอนที่ถูกต้อง”
อาจารย์นิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า ปลาในแม่น้ำโขงมีอาการผิดปกติมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น มีตุ่ม ฯลฯ และปัญหาจะรุนแรงมากขึ้นถ้ามีเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงคือเขื่อนปากแบงในเขตไชยบุรีไม่ไกลจากชายแดนไทยด้าน อ.เวียงแก่น จ.เชียงรายมากนัก เพราะเขื่อนจะกลายเป็นตัวดักสารปนเปื้อนต่างๆ ด้วย
ดร.สืบสกุลกล่าวว่า พวกเราเคยส่งหนังสือไปถึงสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยตั้งแต่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อให้มาร่วมรับฟังความเห็น น่าเสียดายที่ไม่ได้มาร่วม แต่ก็เข้าใจว่าอาจจะมีเหตุขัดข้องบางอย่าง และหวังว่าในอนาคตจีนจะมาร่วมเพราะจะยังมีการจัดเวทีลักษณะนี้อีกหลายครั้งจนกว่าปัญหาจะยุติ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยยังเคยออกแถลงการณ์ว่ายินดีจะมีการพูดคุยด้วยมาแล้ว
ด้าน Mr. เชาหล็อด ชาวคะฉิ่น ประเทศเมียนมา ที่มาอาศัยอยู่ในไทย กล่าวว่าเหมืองแร่ในรัฐคะฉิ่นเป็นเหมืองแรร์เอิร์ท (แร่หายาก) ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 300 กว่าเหมือง แต่ละเหมืองมีขนาดมากน้อยต่างกันก่อให้เกิดหลุมกว่า 3,000 หลุม ตั้งอยู่ 2 จุดใหญ่ๆ คือตอนเหนือ และตะวันออกของรัฐคะฉิ่นติดชายแดนจีน มีแนวโน้มว่าการทำแร่ที่รัฐคะฉิ่นจะโยกย้ายมาทางรัฐฉานคือต้นแม่น้ำกก ซึ่งขณะนี้เกิดขึ้นแล้วอย่างน้อย 3 แห่ง
ลักษณะการทำแรร์เอิร์ทเหมือนกันคือ ขุดดินและหิน กรอกสารเคมี ขุดท่อเชื่อม และเทสารเคมีชนิดรุนแรงลงไป ทำให้ได้สารสีขาวแล้วทำให้เป็นผง ตนเชื่อว่าลุ่มแม่น้ำกกก็ทำแบบเดียวกัน จากนั้นก็จะทิ้งทุกอย่างที่เหลือลงแม่น้ำเหมือนกัน ทั้งนี้ ในอดีตชาวคะฉิ่นก็เหมือนลุ่มแม่น้ำกกคือมีการจับปลา แต่ปัจจุบันปลาตายหมดแล้ว วัว-ควายริมน้ำก็ตาย ผักที่เคยส่งไปจีนก็ขายไม่ได้ เขื่อนดักสารพิษไม่ได้ผลแน่นอน ซึ่งแรร์เอิร์ทที่จีนนำไปเอาไปใช้ผลิตรถ EV การคว่ำบาตรการซื้อรถ EV จีนอาจเป็นอีกหนทางหนึ่งที่ทำได้
นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งว่าเอกอัครราชทูตจีนยังไม่รับการร่วมเวทีด้วย ทำให้ภาคประชาชนจะต้องเข้มแข็งมากขึ้น อาจจะต้องจี้เรื่องไปยังประธานาธิบดีสีจิ้นผิงโดยตรง