ระยอง-ไฟไหม้วอดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังย่านวังจันทร์ จ.ระยอง คนงานกว่า 20 ชีวิตหนีตายอลหม่าน คาดเหตุจากพนักงานผสมสีจนเกิดประกายไฟลุกลาม ขณะ 1ในพนักงานสาวสุดช้ำเงินสดกว่า 4 หมื่น ทอง 2 บาทในล็อกเกอร์เก็บไว้เตรียมดาวน์รถ ถูกเผาเกลี้ยง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม. 3 ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ชนัตพล จันพลงาม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.วังจันทร์ ได้ประสานรถดับเพลิงจาก อบต.วังจันทร์และใกล้เคียงกว่า 10 คันเข้าระงับเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู เร่งเข้าช่วยเหลือ
พบที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ขนาดใหญ่ ที่เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงโดยต้นเพลิงอยู่บริเวณห้องผสมสีที่มีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ขณะที่คนงานพากันแตกตื่นวิ่งหนีตายออกจากอาคารอย่างอดหม่าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่ตัวอาคารก็ถูกไฟไหม้วอดเสียหายทั้งหลัง เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตถูกเผาจนเสียหายทั้งหมด และคาดว่าความเสียหายน่าจะอยู่ที่หลายล้านบาท
สอบถามพนักงานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพนักงานในโรงงานกำลังผสมสีพ่นไม้โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากวนสี แต่ได้เกิดประกายไฟขึ้นและคาดว่าน่าจะมาจากมอเตอร์จุดระเบิดติดไอระเหยสารไวไฟที่อยู่ใกล้ จนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นและไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว
และแม้พนักงานจะพยายามใช้ถังดับเพลิงฉีกสกัดแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายพนักงานต้องพากันวิ่งหนีตายออกมา ซึ่งในเบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายคือพนักงานชายซึ่งสำลักควันและถูกไฟลวก และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ โดยทั้งคู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวังจันทร์ และขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หลังเพลิงสงบพนักงานที่พากันวิ่งหนีตาย ได้พากันกลับเข้าไปตรวจเช็กทรัพย์สินส่วนตัวที่เก็บไว้ในล็อคเกอร์ โดยพนักงานหญิงรายหนึ่งถึงกับทรุดตัวร้องไห้โฮ หลังพบว่าเงินสดจำนวน 41,500 บาท และทองคำหนัก 2 บาทที่เก็บไว้เพื่อเตรียมนำไปจ่ายเป็นเงินดาวน์รถยนต์ ได้ถูกไฟไหม้ไดรับความเสียหาย
ขณะที่ ร.ต.อ.ชนัตพล เผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือประกายไฟจากมอเตอร์ผสมสี ประกอบกับภายในมีสารเคมีไวไฟจำนวนมาก จึงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว และจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
“ ขอฝากเตือนผู้ประกอบการโรงงานที่เกี่ยวข้องกับสารไวไฟ ควรเพิ่มความเข้มงวดด้านความปลอดภัย และซักซ้อมแผนรับมือเพลิงไหม้อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเหตุร้ายซ้ำรอย”ร.ต.อ.ชนัตพล กล่าว