กำแพงเพชร - เกิดเหตุสุดสลด..ลูกชายมีอาการป่วยจิตเวชอายุ 52 ปี ฟันแม่วัย 84 เสียชีวิตจมกองเลือดคาบ้าน พี่สาวเลิกงานกลับมาเจอตอนหัวค่ำต้องล็อกประตูขังแจ้ง ตร.จับกันระทึก พบสปาร์ตาถึง 3 เล่ม เพื่อนบ้านเผยชอบสะสมมีด เคยหลอนบอกกลัวผี/ขอไปนอนบ้าน แถมเพ้อบอกจะฆ่าจนต้องหนี
พ.ต.ท.บัญชา สุ่มเงิน พนักงานสอบสวน สภ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมในบ้านหลังหนึ่งพื้นที่ ต.เกาะตาล อ.ขาณุวรลักษบุรี หัวค่ำที่ผ่านมา (19 มิ.ย.) จึงได้ออกตรวจสอบร่วมกับกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดป่าพุทรา
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ภายในห้องครัวของบ้านพบร่างนางมาลี มั่นทรัพย์ อายุ 84 ปี สวมเสื้อคอกระเช้าสีฟ้า และผ้าถุงลายดอกน้ำเงิน นอนคว่ำเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กับพื้น ตามร่างกายพบบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมหลายจุด
ซึ่งก่อนพบศพ ลูกสาวผู้ตายได้เดินทางกลับมาที่บ้านหลังเลิกงาน พบว่าวันนี้ภายในบ้านดูเงียบผิดปกติ ไม่เห็นแม่เดินออกมาพูดคุยด้วย จึงได้เดินเข้าไปภายในห้องครัว ก็พบว่าแม่นอนจมกองเลือดเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นได้เดินเข้าไปที่ห้องนายจักรกฤษ น้องชาย อายุ 52 ปี ก็พบน้องนั่งเหม่อลอยในห้อง จึงสอบถามว่าได้ทำร้ายแม่หรือไม่ ซึ่งน้องชายก็ได้บอกว่าเป็นคนทำ หลังจากนั้นตนก็ออกมาจากบ้านและล็อกประตูรั้วพร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาถึงก็ได้นำไม้ง่ามเข้าชาร์จตัวของผู้ก่อเหตุ โดยเข้าทางห้องครัวหลังบ้านผ่านศพของผู้เป็นแม่และเข้าไปภายในห้องของผู้ก่อเหตุ และพบมีดสปาร์ตาจำนวน 3 เล่ม ก่อนควบคุมตัวไปโรงพักทันที ขณะเดียวกันชาวบ้านที่รู้ข่าวต่างก็มามุงดูเหตุการณ์สลดดังกล่าว
นางสำเนียง บันพต อายุ 60 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่ามีอาการเป็นผู้ป่วยจิตเวชรักษามานานแล้วแต่ช่วงหลังเหมือนอาการกำเริบ ก่อนหน้านั้นไม่กี่วันก็เดินไปขอนอนที่บ้านของตน บอกว่ากลัวผี ตนจึงบอกว่านอนไม่ได้เพราะสามีตนอยู่ให้กลับบ้านไปเลย แต่เขาก็ไม่ยอมไป กลับมีอาการหลอนหาว่าตนจะฆ่าบ้าง จะทำร้ายบ้าง แล้วพยายามจะดันประตูเข้ามาหา ตนจึงกระโดดขึ้นรถกระบะกับลูกหนีออกจากบ้านไป ปล่อยให้อยู่ภายในบ้านของตนลำพัง พอตกตอนเย็นพี่สาวก็ได้มารับกลับบ้านไป ซึ่งผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมสะสมมีดและพกมีดอยู่ตลอดเวลา
“บ้านหลังเกิดเหตุอยู่กันสามคน คือ ผู้เสียชีวิต ลูกสาวที่เป็นครู กับน้องชายที่ก่อเหตุ วันเกิดเหตุได้ยินผู้ก่อเหตุร้องเอะอะโวยวาย ซึ่งก็คิดว่าน่าจะคลุ้มคลั่งเหมือนวันก่อน แต่ไม่คาดคิดว่าจะร้ายแรงขนาดนี้”