เชียงราย - "พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม" นำทีม ป.ป.ส. ตำรวจ ทหาร ดีเอสไอ เปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลมครั้งที่ 4 ยึดทรัพย์ ทลายเครือข่ายยานรก-ล่า.."เสี่ยม้าบิน" ตัวการแก๊งใหญ่ขนยาเสพติดกบดานสร้างอาณาจักรธุรกิจพันล้านท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง จ่อเจรจาเมียนมาจับ-ยึดทรัพย์
วันนี้ (18 มิ.ย.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ภาค 5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบก.ปส., พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ 5, พ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย, พ.ต.อ.เทคนิค จันสี ผกก.สภ.แม่สาย, พ.อ.มารุต เปล่งขำ ผอ.กอง 12 ศรภ.กองบัญชาการกองทัพไทย, พ.อ.ปริญญา วีระศรีนารา รองหัวหน้าส่วนขยาย ฝ่ายข่าวกรอง ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก, นายธนาธิป นวรัตนวรกุล อัยการประจำ อสส., นายวิญญู มธุโรรส รอง ผอ.กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค DSI และ นายสุพจน์ แสนมี ปลัด จ.เชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการ "ตัดไฟแต่ต้นลมครั้งที่ 4" ดำเนินการต่อทรัพย์สินของผู้ต้องหาตามหมายจับและเครือญาติรวม 8 คน ในพื้นที่ จ.เชียงราย
ผลการปฏิบัติไม่พบบุคคลตามหมายจับตามจุดที่ตรวจค้น เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดอายัดทรัพย์สินหลายรายการ เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 2 แห่ง รถยนต์ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน เงินฝากในบัญชีธนาคาร 625,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 15.1 ล้านบาท นอกจากนี้ ป.ป.ส.ยังเตรียมออกหนังสือเชิญบุคคลที่มีเส้นทางการเงินต้องสงสัย จำนวน 12 คน เข้าชี้แจงให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินต้องสงสัย ซึ่งหากไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินได้จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบทรัพย์สินของบุคคลในเครือข่ายการเงินต้องสงสัยรวมมูลค่าประมาณ 97 ล้านบาท
ปฏิบัติการนี้มีขึ้นหลัง ป.ป.ส.ได้จับกุมผู้ต้องหาที่กรุงเทพฯ รวม 8 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทยาบ้าจำนวนประมาณ 3,000,000 เม็ด เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2568 ที่ผานมา จากการตรวจสอบพบเป็นเครือข่าย "นายอาฉ่าง" หรือ "เสี่ยม้าบิน" ซึ่งสั่งการเครือข่ายให้ลักลอบขนยาเสพติดจาก จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ให้นำส่งเครือข่ายตอนในประเทศไทยรวมทั้งส่งต่อไปยังประเทศที่สามด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอนุมัติหมายจับ "นายอาฉ่าง" หรือ "เสี่ยม้าบิน" และมีการอนุมัติหมายจับศาล จ.เชียงราย ที่ 335/2568 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2568 ความผิดฐาน “ร่วมกันนำเข้ามาในราชอาณาจักร, ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า), สมคบฯ” เพราะ "นายอาฉ่าง" หรือ "เสี่ยม้าบิน" มีศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดในประเทศเมียนมาและยังสามารถจัดหาทีมลักลอบลำเลียงเข้ามาตามแนวชายแดนด้าน อ.แม่สาย ก่อนจะขนส่งต่อๆ ไปดังกล่าว ถือเป็นผู้มีอิทธิพลในฝั่งเมียนมาด้วย
ปัจจุบัน "นายอาฉ่าง" หรือ "เสี่ยม้าบิน" อยู่ในประเทศเมียนมา โดยมีกิจการทั้งใน จ.ท่าขี้เหล็ก และ จ.เชียงตุง ได้แก่ ร้านจำหน่ายทองคำรูปพรรณ รับเหมาก่อสร้าง กิจการอินเทอร์เน็ต สถานบันเทิง (คาราโอเกะ ผับ) โรงแรม ขนส่ง จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1,000 ล้านบาท
พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-เมียนมา ในการปราบปรามยาเสพติด และเครือข่ายนี้ถือเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ บุคคลเป้าหมายหลักที่ถูกออกหมายจับมีพฤติการณ์ในระดับผู้สั่งการ มีศักยภาพในการจัดหายาเสพติดไปกระจายในภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาแปลงเป็นทรัพย์สิน และลงทุนในธุรกิจต่างๆ ทั้งในไทย และเมียนมา
ซึ่งตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ภาณุรัตน์ เลขาธิการ ป.ป.ส. เดินทางไปพบ พล.ต.ท.วิน ซอ โม บัญชาการตำรวจเมียนมาและเลขาธิการหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดประเทศเมียนมา หรือ CCDAC และ พล.จัตวา ต่าน ลวิน หม่อง เลขาธิการร่วมสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดประเทศเมียนมา วันที่ 2 ก.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับเครือข่ายดังกล่าว โดยจะขอความร่วมมือให้ทางเมียนมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลตามหมายจับ และยึดอายัดทรัพย์สินในเมียนมาต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่กลางปี 2567-ปัจจุบัน ป.ป.ส.ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลม รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ครั้งแรกจับกุมบุคคลตามหมายจับ 4 คน ตรวจยึดทรัพย์สิน 66,000,000 บาท ครั้งที่ 2 จับกุมบุคคลตามหมายจับ 3 คน ตรวจยึดทรัพย์สิน 101,000,000 บาท ครั้งที่ 3 จับกุมบุคคลตามหมายจับ 1 คน ตรวจยึดทรัพย์สิน 80,000,000 บาท และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ยึดอายึดทรัพย์สินได้มูลค่าประมาณ 3,600,000 บาท และตรวจสอบทรัพย์สินของเครือข่ายธุรกรรมการเงินต้องสงสัยมูลค่ากว่า 97,000,000 บาท