บุรีรัมย์ - พี่สาวครูมัท บุรีรัมย์ ร่ำไห้ขอให้น้องสาวเป็นศพสุดท้าย เครียดจากภาระงานหนักเกินหน้าที่ครู ต้องรับผิดชอบหลายอย่างจนคิดสั้นปลิดชีพตัวเองพร้อมเขียนจดหมายระบายถึงการทำงานที่ไม่เป็นระบบทำให้เกิดปัญหาสะสม ด้านศึกษาธิการจังหวัดฯ รุดแสดงความเสียใจและมอบเงินช่วยงานศพครอบครัว
จากกรณีเหตุสลด นางสาวอนุสรา หรือครูมัท อายุ 39 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้ใช้เชือกไนลอนสีแดงผูกคอเสียชีวิตในห้องนอนที่บ้าน ในหมู่บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 มิ.ย. 68 สาเหตุเพราะเครียดจากระบบการทำงาน ต้องรับผิดชอบหลายหน้าที่ โดยครูได้เขียนจดหมายลาตาย ระบายความรู้สึกไว้ด้วย “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน จากมัท” โดยในซองจดหมายมี 5 หน้ากระดาษ โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายได้เขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู, ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่
ส่วนหน้าที่ 5 ครูมัทเขียนข้อความบรรยายเกี่ยวกับการทำงาน ระบุว่า "ข้าพเจ้าขอลาทุกคนบนโลกใบนี้ไปด้วยความไม่สบายกาย และไม่สบายใจ ด้วยมีปัญหาในเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งข้าพเจ้าให้ท่านคั่งค้าง ทำให้พอกพูนจนแก้ไขได้ยาก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เป็นเพราะข้าพเจ้าเพียงคนเดียว แต่เป็นเพราะเกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน การทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อน เคลียร์เอกสารทีหลัง และก็นิ่งเฉยไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเอง จนหัวจะระเบิดไมเกรนแทบทุกวัน ข้าพเจ้าเหนื่อยกายกับการทำงานนี้มากๆ สุขภาพก็ไม่ดีสะสมมาเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจจากโลกนี้ไป ก็เพราะเพื่อนร่วมงานที่จัดการ สั่งการมาโดยตลอด แต่พอถึงเวลามีความผิด กลับบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้อง
ส่วน ผอ.ที่ย้ายมาแต่ละคนก็ไม่เคร่งครัดเรื่องการเงินเลย ไม่มีความรู้ด้านการเงิน ใช้เงินไม่ถูกต้อง แต่พอมีความผิดอ้างว่าเราเป็นคนทำ ข้าพเจ้าขอโทษต่อเพื่อนร่วมงานท่านอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ข้าพเจ้าไม่สามารถทำงานนี้ต่อไปอีกได้แล้ว ถ้าอยู่ต่อไปคงพิการ หรือเส้นเลือดในสมองแตกตาย ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้กับทุกคนขออย่าให้ร้ายกันในวันที่ข้าพเจ้าไม่สามารถโต้แย้งใดๆ ได้ ส่วนที่ผิดขอน้อมรับ แต่ส่วนที่ไม่ใช่ก็ขออย่าใส่ร้ายกันเลย ฝากถึงกระทรวง ให้ช่วยเห็นใจครูการเงิน และพัสดุด้วยนะคะ อย่าให้ต้องทำงานหนักและเสี่ยงชีวิตแบบนี้เลย ลาก่อน
ล่าสุดวันนี้ (17 มิ.ย. 68) ดร.ภัทรวรรธน์ นิลแก้วบวรวิชญ์ ศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางไปเคารพศพ พร้อมแสดงความเสียใจ และมอบเงินช่วยเหลือค่าจัดงานศพเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวครูมัท ขณะที่ครอบครัวยังอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจและทำใจไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.อทิตยา ชวนรัมย์ อายุ 42 ปี พี่สาวครูมัท เล่าทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมาน้องสาวไม่เคยบ่นหรือระบายอะไรให้คนในครอบครัวฟังเกี่ยวกับความเครียดเรื่องการทำงานเลย แต่เคยเห็นน้องนั่งทำงานดึกดื่นหลายครั้ง ก็ยังชื่นชมเลยว่าน้องขยันจัง กระทั่งน้องตัดสินใจคิดสั้นและเขียนจดหมายลาตายทิ้งเอาไว้ระบายเกี่ยวกับการทำงาน ที่ได้รับมอบหมายหลายอย่างนอกจากหน้าที่การสอนปกติ พอได้อ่านจดหมายที่น้องระบายเกี่ยวกับการทำงานก็สงสารน้องมาก ก็คิดว่าน้องคงเครียดจริงๆ ถึงได้คิดสั้น ส่วนตัวก็คิดว่ามีครูหลายคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าแสดงออก ก็อยากให้น้องเป็นคนสุดท้ายที่ต้องเลือกจบชีวิตกับเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก ถือว่าที่น้องเลือกจบชีวิตเพื่อเป็นตัวแทนครูหลายคนที่ต้องแบกรับภาระหน้าที่มากกว่าแค่ครูผู้สอน
อยากให้ทางกระทรวงหรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนภาระหน้าที่ครูให้เหมาะสม ไม่รับผิดชอบงานที่หนักจนเกินรับไหว ส่วนการเสียชีวิตของน้องถือว่าเลือกจบชีวิตเพราะหน้าที่ก็อยากให้ทางกระทรวงช่วยเหลือด้วย เพราะน้องสาวยังมีลูกสาววัย 10 ขวบที่ต้องสูญเสียแม่ที่เป็นเสาหลักไป
ส่วนศึกษาธิการจังหวัดบุรีรัมย์ระบุว่า ในฐานะตัวแทนกระทรวงฯ เบื้องต้นก็ได้มาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวพร้อมมอบเงินช่วยเหลืองานศพในเบื้องต้น ส่วนสาเหตุที่ครูตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแล้วเขียนจดหมายทิ้งไว้ระบายเรื่องการทำงานนั้น ก็ต้องมีการตรวจสอบตามขั้นตอนเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งหากผลสอบพบว่ามีการกดดันให้ทำงานหนักเกินหน้าที่จริง หรือปัญหาในโรงเรียนหรือไม่ ทางเขตพื้นที่การศึกษาที่รับผิดชอบก็ต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่อไป