บุรีรัมย์ - จุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด ยังเปิดตามมาตรการควบคุมวันเวลาเปิด-ปิด จาก 7 วัน เหลือสัปดาห์ละ 3 วันตามปกติ แม้ “ฮุนเซน” ขู่ปิดทุกด่าน แต่มี ปชช.ข้ามไปมาน้อยบรรยากาศเงียบเหงา ด้านวิน จยย.โอดรายได้เหลือวันไม่ถึงร้อย หากปิดด่านจริงก็ต้องไปหาอาชีพอื่นทำ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (17 มิ.ย.) บรรยากาศที่จุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงฝั่งไทยยังเปิดด่านตามมาตรการควบคุมวันเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนตามคำสั่งแม่ทัพภาคที่ 2 จากเดิมสัปดาห์ละ 7 วัน ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. เหลือสัปดาห์ละ 3 วัน คือวัน อังคาร พุธ และพฤหัสบดี เวลา 09.00-12.00 น. ตามปกติ
ขณะที่ฝั่งช่องจุ๊บโกกี อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อเวลา 10.00 น. ฝ่ายความมั่นคงฝั่งกัมพูชา ก็ได้เปิดประตูด่านให้ประชาชนข้ามมาซื้อสินค้าฝั่งไทยตามปกติเช่นกัน ถึงแม้ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และอดีตผู้นำกัมพูชา จะประกาศกดดันให้ประเทศไทยเปิดด่านชายแดนทั้งหมด ภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดด่านชายแดนทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกชนิดเข้าสู่ราชอาณาจักร
แต่ถึงแม้จะเปิดให้ประชาชนทั้งสองฝั่ง ข้ามไปมาซื้อสินค้าระหว่างกันได้ตามปกติ แต่บรรยากาศก็เป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีประชาชนทั้งฝั่งไทยและกัมพูชาข้ามไป-มาน้อย ส่งผลให้การค้าขายทั้งสองฝั่งไม่คึกคัก โดยประชาชนฝั่งกัมพูชาส่วนมากจะข้ามมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค พืชผัก และปุ๋ย ส่วนคนไทยจะข้ามไปซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ตามปริมาณที่รัฐกำหนดให้ และบางส่วนก็ข้ามไปเล่นกาสิโน ซึ่งจำกัดเฉพาะประชาชนชาว อ.บ้านกรวดเท่านั้น
จากสถานการณ์ดังกล่าวกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าทั้งสองประเทศ รวมถึงวินจักรยานยนต์ที่วิ่งให้บริการก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน จากปกติเคยมีรายได้วันละ 200-300 บาท หลังเกิดสถานการณ์ไม่สงบเหลือไม่ถึงวันละ 100 บาท
นายสาคร ฤทธิ์ยุง วินจักรยานยนต์ช่องสายตะกู บอกว่า ปกติที่ช่องสายตะกูวินจักรยานยนต์ประมาณวันละกว่า 30 คัน แต่ทุกวันนี้เหลือไม่ถึงวันละกว่า 10 คัน ซึ่งเมื่อก่อนมีรายได้จากการวิ่งวินที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกูวันละ 200 บาท หลังจากปรับลดเหลือสัปดาห์ละ 3 วัน เหลือรายได้วันละไม่ถึง 100 บาท อยากให้เปิดเป็นปกติเหมือนเดิม แต่ถ้าปิดจริงก็ต้องปรับตัวไปหาอาชีพอื่นเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว