สุรินทร์- พระ-โยมรุมแฉวีรกรรม! “หลวงตาซุจ” พระนักเทศน์ดังฝักใฝ่เขมร ไลฟ์สดสาปแช่งคนสุรินทร์ เคยถูกชาวบ้านขับไล่ออกจากงวัดบ้านสกล อ.กาบเชิง สุรินทร์ เหตุขุดกระดูกผีตายโหงมาทำพิธีคุณไสย์และฝังไว้ใต้ศาลาวัด เมื่อหลายสิบปีก่อน
วันนี้( 17 มิ.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพระนักเทศชื่อดังชื่อว่า “หลวงตาซุจ” หรือ พระนรินธร ปสันโน พระนักเทศน์ชื่อดังจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเคยเดินสายแผ่ธรรมมะในต่างประเทศ ทั้งกัมพูชา ทั้งสหรัฐอเมริกา และเคยดูแลวัดถึง 7 แห่ง รวมถึงยังได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพระสังฆาราชกัมพูชา “หลวงตาซุจ” มีวิธีการพูดคุยเทศนาในแบบเฉพาะตัว ทำให้ญาติโยมทั่งอีสานใต้ชื่นชอบการเทศนาที่เผยแพร่เรื่องพระพุทธศาสนาและแฝงไปด้วยความสนุก ตลก ไม่มีใครที่จะไม่รู้จักหลวงตาซุจในโซนอีสานใต้
ต่อมาได้เกิดกระแสร้อนแรงหลังจาก “หลวงตาซุจ” ได้ไลฟ์สดลงเฟซบุ๊ก พูดให้ท้ายประเทศกัมพูชาและยังมีการส่งเสบียงไปสนับสนุนฝั่งทหารของกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม หลังจากเกิดข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างไทยและกัมพูชา ประเด็นหลักที่ทำให้ชาวสุรินทร์เป็นที่พาดพิงและไม่พอใจอย่างหนัก “หลวงตาซุจ”ได้พูดกลางไลฟ์สดเป็นภาษาเขมรว่า “อาตมาไม่ใช่คนสุรินทร์เกลียดพวกคนสุรินทร์มาก เขมรยิงเลย ยิงให้พวกสุรินทร์เละไปหมด เขมรยิงไปเลย ยิงพวกสุรินทร์เละให้หมด พวกจังหวัดสุรินทร์ตายหมดอาตมาสบายใจ อาตมาไม่ชอบนิสัยของพวกชาติตระกูลชาวสุรินทร์ ตายๆให้หมดก็ดี เพราะอาตมาไม่ใช่คนสุรินทร์อาตมาคนบุรีรัมย์ และถ้าใครมาคอมเมนต์เกี่ยวกับคนสุรินทร์จะไล่บล็อกให้หมด”
หลังจากกระแสดังกล่าวเกิดขึ้นชาวสุรินทร์ลุกฮือต่างเกิดความไม่พอใจล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่บ้านตระแบก ตำบลไพร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยเป็นสายเลือดเป็นพี่เป็นน้องกับหลวงตาซุจต่างโมโหไม่พอใจต่อพฤติกรรมที่หลวงตาซุจพูดในไลฟ์สดได้ทำพิธีกรรมต่อหน้าเหล่าบรรดาชาวบ้านมากมายตัดขาดไม่นับถือเป็นญาติพี่น้องสายเลือดอีกต่อไปและเรียกร้องให้ทาง“หลวงตาซุจ” หรือ นริธร ปสันโน ออกมาขอโทษชาวสุรินทร์ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวทางสงฆ์ไม่สมควรใช้คำหยาบคายและเกิดความเกลียดชังกันทำให้ไลฟ์สดดังกล่าวถูกลบทิ้งเนื่องจากทนกระแสกดดันไม่ได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลมาว่า “หลวงตาซุจ” เคยเป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีสกล ตำบลตำเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และ ได้ไปพูดคุยกับพระที่อยู่ในวัดเพื่อให้เล่าถึงเรื่องราวที่ หลวงตาซุจ โดนชาวบ้านขับไล่ออกจากวัด เมื่อปี พ.ศ 2534 และ พูดคุยกับชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่ หลวงตาซุจ โดนชาวบ้านไล่ออก รวมไปถึงนิสัยใจคอ
พระโอภาส อายุ 68 ปี เล่าว่า เมื่อปี 2530 อาตมาเคยบวชอยู่ที่วัดแห่งนี้และได้ย้ายออกไปอยู่ที่วัดอื่น แต่ลูกวัดเล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2534 สมัยนั้นเป็นช่วงสงครามเขมร และประเทศเขมรได้ฝังศพทหารและพลเรือนมีทั้งตายท้องกลม ตอนนั้นหลวงตาซุจยังเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่นี่ ได้ไปขุดเอากระดูกผีตายโหงมาทำพิธีคุณไสย์ และฝังกระดูกอยู่ใต้ศาลา ชาวบ้านรู้เรื่องราวจึงได้รวมตัวกันขับไล่ออกจากวัดเพราะกลัวจะเป็นอาเพศ จากนั้น “หลวงตาซุจ” ก็ไปอยู่ที่อื่น
นายสมใจ อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านสกล ที่อยู่ในเหตุการณ์ สมัยที่หลวงตาซุจโดนขับไล่ออกจากวัด เล่าว่า เล่าว่า หลวงตาซุจ มีนิสัยก้าวราว เคยจะต่อยกับญาติโยม ที่สมัยบวชเป็นเจ้าอาวาสเคยเล่นคุณไสย์ไปขุดเอากระดูกผีตายโหงมาเล่นของและฝังไว้ใต้ศาลา ชาวบ้านจึงรวมตัวกันขับไล่ออกจากวัดบ้านสกลไม่มีอะไรฝากถึงนอกจากมะเหงก มันไม่ใช่พระ นายสมใจกล่าว
นางจำเนียน อายุ 57ปี หนึ่งชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่หลวงซุจขับไล่ หลังจากที่ทราบข่าวว่า หลวงตาซุจพูดสาปแช่งคนสุรินทร์ ตนรู้สึกเสียใจ เสียข้าวที่ไปตักบาดทำบุญจริงๆ สาปแช่งยังไงก็ขอให้กลับไปหาแบบนั้น เพราะชาวบ้านสกลไม่เคยไปทำอะไรให้