เชียงราย - อุทยานฯ ประกาศปิดการท่องเที่ยว “ถ้ำหลวง” ชั่วคราวช่วงหน้าฝนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ป้องกันเหตุซ้ำรอย 13 หมูป่าอะคาเดมีติดถ้ำจนต้องเปิดปฏิบัติกู้ภัยบันลือโลก แต่ขุนน้ำนางนอนยังเที่ยวได้
นายปิยะพงษ์ ศรไชย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง (เตรียมการ) ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ออกประกาศว่าเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งว่าประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในวันที่ 15 พ.ค. 2568 เป็นต้นมา ทำให้ภาคเหนือตอนบนมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมถึงเชียงรายมีฝนตกหนักและฝนตกสะสม
เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้จะเดินทางไปท่องเที่ยวในถ้ำหลวง ประกอบกับเจ้าหน้าที่ต้องจัดเก็บอุปกรณ์และระบบไฟส่องสว่างภายในถ้ำออกทั้งหมด จึงขอประกาศปิดการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวถ้ำหลวงตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. 2568 เป็นต้นไป แต่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ขุนน้ำนางนอนและพื้นที่บริการอื่นๆ ยังสามารถเข้าเที่ยวชมได้ตามปกติ
สำหรับถ้ำหลวงเคยเกิดกรณีกู้ภัยทีมหมูป่าอะคาเดมี 13 คนติดถ้ำระหว่างวันที่ 23 มิ.ย.-11 ก.ค. 2561 หลังเดินเข้าไปสำรวจในถ้ำหลวงช่วงฤดูฝนและเป็นช่วงที่น้ำในถ้ำไหลเอ่อล้นจนปิดทางออก รวมทั้งท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ จนทั้งหมดต้องหนีเข้าไปอยู่ในส่วนลึกของถ้ำ ที่เรียกว่า “พัทยาบีช” ไกลจากปากถ้ำถึง 2.315 กิโลเมตร
หลังปฏิบัติการกู้ภัย อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ได้ฟื้นฟู-เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมศาลาอนุสรณ์สถานและอนุสาวรีย์นาวาตรี สมาน กุนัน หรือจ่าแซม ซึ่งเสียชีวิตจากการกู้ภัยดังกล่าว และเปิดให้เข้าชมโถงปากถ้ำ, โถงที่ 1 ลึกประมาณ 200 เมตร, โถงที่ 2 ที่ลึกประมาณ 693 เมตร, โถงที่ 3 หรือโถงบัญชาการเหตุการณ์กู้ภัยลึกประมาณ 715 เมตร, โถงถ้ำที่ 3 ลึกประมาณ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งถัดจากนั้นจะเป็นสามแยกและพัทยาบีชดังกล่าว
