ฉะเชิงเทรา- ยังไม่หมดไม่สิ้น ปลาหมอคางดำ ปักหลักถาวรพื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านวางลอบดักปลาจับได้ทุกวัน จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบก่อนระบาดซ้ำ
เมื่อเวลา 16.00น.วันนี้ ( 16 มิ.ย.)ผู้สื่อข่าวได้แจ้งจาก นายสุพจน์ รัตนกุลชร อายุ 78 ปี ชาวบ้าน ม.3 ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ว่าพบ ปลาหมอคางดำ ติดในลอบดักปลาที่วางภายในคลองเกาะดอน และ คลองแขวงกลั่น เป็นประจำทุกวันและในแต่ละวันจะพบปลาหมอคางดำ ติมาประมาณ 5-6 ตัว
โดยเฉพาะลอบที่วางอยู่ใกล้บริเวณทางน้ำไหล และในคลองแขวงกลั่น ที่เพิ่งพบเป็นปีแรก
ทั้งนี้ ปลาหมอคางดำ ที่ดักได้ตนเองไม่ได้นำไปขายหรือปรุงเป็นอาหารบริโภค แต่ได้นำมาต้มให้แมวที่เข้ามาอยู่อาศัยภายในบ้านจำนวนกว่า 10 ตัวได้กินเป็นอาหาร
" ปกติที่ออกไปวางลอบหาปลาส่วนใหญ่จะจับได้ ปลาช่อน ปลานิล ปลาดุก และปลาตะเพียน ซึ่งในแต่ละวันจะออกวางลอบตามลำคลองต่างๆ วันละประมาณ 20 ใบ เพื่อเก็บกู้ในช่วงเช้า ซึ่งก่อนหน้านี้จะได้ปลาวันละประมาณ 5-10 กิโลกรัม แต่มาในระยะหลังปลาที่ต้องการจับได้น้อยลงมาก แต่กลับได้ ปลาหมอคางดำ ติดมาในลอบแทนจึงคิดว่าปลาหมอคางดำน่าจะมีการแพร่ระบาดอยู่ภายในลำคลองย่านนี้เป็นจำนวนมาก"
นายสุพจน์ ยังบอกอีกว่าโดยเฉพาะพื้นที่บริเวณรอยต่อระหว่าง ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ และ ต.บางเตย อ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่เริ่มพบปลาหมอคางดำมากขึ้น และขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาตรวจสอบ
ทั้งนี้พื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เคยพบการแพร่ระบาดของ ปลาหมอคางดำ ในพื้นที่ ต.บางกระเจ็ด อ.บางคล้า ด้านฝั่งซ้ายของแม่น้ำบางปะกง เมื่อช่วงกลางเดือนก.ค.2567 ที่ผ่านมา และยังพบ ปลาหมอคางดำ ภายในคลองขุดใหม่เลียบถนนสุขุมวิทสายเก่า (สาย 3) ในพื้นที่ ต.สองคลอง อ.บางปะกง ซึ่งเป็นพื้นที่ด้านฝั่งขวาของแม่น้ำบางปะกง
เนื่องจากมีการคลองขุดใหม่ที่เป็นเส้นทางเชื่อมโยงรับการระบายน้ำตอนปลายก่อนลงสู่ทะเล จากลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน และยังเชื่อมถึงกันไปยังลำคลองสายต่างๆ ทั้งในเขต ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ และลุ่มน้ำบางปะกง
โดยการพบปลาหมอคางดำในครั้งนั้นได้กระจายเข้าไปในเขต ต.หอมศีล, ต.บางปะกง,และต.บางเกลือ อ.บางปะกง รวมทั้งในอีกหลายตำบลบริเวณพื้นที่ทางตอนล่างของแม่น้ำบางปะกงอีกด้วย
ซึ่วการพบ ปลาหมอคางดำในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการพบในบริเวณพื้นที่ตอนกลางด้านขวาของแม่น้ำบางปะกง ซึ่งอยู่ห่างจาก ต.สองคลอง ระยะทางกว่า 40-50 กิโลเมตรและที่สำคัญยังไม่ได้มีหน่วยงานใดเข้ามาทำการตรวจสอบ หรือแก้ไขสถานการณ์แต่อย่างใด