ศูนย์ข่าวขอนแก่น - มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วม บพท.ลงนามความร่วมมือกับจีน ส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนจีนในประเทศไทย ใช้กลไกการจับคู่และพัฒนาเชิงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา
วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ศูนย์แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เมืองเสิ่นเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้มีการลงนามความร่วมมือร่วมกันระหว่างศูนย์แลกเปลี่ยนและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (เสิ่นเจิ้น) ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญภายใต้โครงการ Belt and Road ของจีนที่ส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีสีเขียว ร่วมกับคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น และบริษัท สมาร์ท คอนซัลติ้ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาในประเทศไทย
มีหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (PMU A) หน่วยงานของรัฐบาลไทย ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (NXPO) ซึ่งสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมในระดับพื้นที่และเมืองคาร์บอนต่ำ เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือแบบไม่ผูกพันทางกฎหมาย ในประเด็นที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน โดยส่งเสริมความร่วมมือผ่านการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ การจับคู่ทางธุรกิจ และนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อม
รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนอุตสาหกรรมไทย-จีน โดยทุกฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าว โดยแต่ละฝ่ายจะประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายในประเทศของตน เพื่อเชื่อมโยงระหว่างภาคธุรกิจ สถาบัน และมหาวิทยาลัย ส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและการแบ่งปันทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนั้นยังมีการจับคู่ทางธุรกิจและการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทน: ทุกฝ่ายจะร่วมกันจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ
และจัดการเยี่ยมเยือนคณะผู้แทน เพื่อส่งเสริมการจับคู่ระหว่างผู้เสนอกับผู้ต้องการ รวมทั้งการค้าข้ามพรมแดนและการลงทุน และยังมีการสร้างแพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ร่วมกัน โดยทุกฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อจัดแสดงสินค้าเทคโนโลยีสีเขียว ส่งเสริมโครงการ และสร้างปฏิสัมพันธ์ทางดิจิทัล โดย B&RETTC จะรับผิดชอบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิคและสนับสนุนทางเทคนิคอย่างต่อเนื่อง
คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะรับผิดชอบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอนและฝึกอบรม บริษัท สมาร์ท คอนซัลติ้ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด จะประสานงานกับภาคธุรกิจในท้องถิ่นเพื่อรวบรวมและบริหารจัดการข้อมูลฝั่งผู้ใช้ PMU A จะสนับสนุนให้แพลตฟอร์มนี้สอดคล้องกับนโยบายพัฒนาพื้นที่ และส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์มในเมืองและกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย
ผศ.ดร.อรรฆพร ก๊กค้างพลู หัวหน้าโครงการวิจัย การพัฒนานโยบายด้านการค้าการลงทุนรูปแบบใหม่เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้าและการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจไทย-จีน คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า แนวคิด belt and road มุ่งเน้นการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสูงของโครงการ belt and road สีเขียวและการก่อสร้างเขตสาธิตนำร่องแบบจีนในเมืองเซินเจิ้น มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมสีเขียวที่ครอบคลุมทั้งห่วงโซ่ภาครัฐอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยสถาบันวิจัย สื่อ และการเงินเพื่อพัฒนาสู่ซิลิคอลวัลเลย์ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสีเขียวและคาร์บอนต่ำ
งานวิจัยครั้งนี้มุ่งออกแบบนโยบายการค้า-การลงทุนแบบใหม่ โดยอาศัยความร่วมมือจากทั้งสองประเทศ ทีมวิจัยได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐบาลจีนและนักวิชาการจีน เพื่อร่วมกันออกแบบโมเดลการลงทุนที่ตอบโจทย์ทั้งเชิงพื้นที่และเชิงเทคโนโลยีของไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด การจัดการสิ่งแวดล้อม และการผลิตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ
ดร.วรรณิภา คุดสีลา หัวหน้าทีมพัฒนาแพลตฟอร์ม กล่าวว่า ความร่วมมือไทย-จีนครั้งนี้ มีเป้าหมายชัดเจนในการสร้าง จุดเชื่อมโยงการลงทุน ระหว่างนักลงทุนจีนและโอกาสในพื้นที่เศรษฐกิจของไทย โดยใช้กลไก 4 ประการ ได้แก่ (1) แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับเผยแพร่ข้อมูลการลงทุน (2) หลักสูตรอบรมที่ออกแบบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญไทย-จีน (3) กิจกรรมเยี่ยมชมพื้นที่จริงและนิคมอุตสาหกรรม และ (4) การจับคู่ธุรกิจระหว่างนักลงทุนจีนกับโครงการไทยที่ผ่านการคัดเลือก
ความพิเศษของแพลตฟอร์มนี้ คือการผสานองค์ความรู้ของไทยเข้ากับเทคโนโลยีจากจีน โดยมีการประสานงานใกล้ชิดกับสำนักงาน BOI การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) และศูนย์เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมจากจีน เพื่อให้การลงทุนเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและตรงจุด
Mr. Hao Mingtu ผู้อำนวยการศูนย์ B&RETTC (Belt and Road Environmental Technology Transfer Center) ซึ่งมีฐานอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน กล่าวถึงบทบาทของศูนย์ฯ ในฐานะพันธมิตรหลักของความร่วมมือไทย-จีน ว่า B&RETTC มุ่งมั่นถ่ายทอดเทคโนโลยีสีเขียวจากจีน ไม่ว่าจะเป็นระบบพลังงานสะอาด เทคโนโลยีรีไซเคิล และระบบบำบัดน้ำเสีย สู่พื้นที่เป้าหมายในประเทศไทย โดยร่วมกับภาคเอกชนท้องถิ่น หน่วยงานรัฐ และสถาบันการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม และยกระดับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาค
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนภาพการพัฒนาอย่างมีทิศทางและสร้าง “ระบบนิเวศความร่วมมือไทย-จีน” ที่ไม่เพียงเป็นเครื่องมือเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นโมเดลนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน ผสานองค์ความรู้ เทคโนโลยี และทุนจากจีน กับบริบทเชิงพื้นที่และความต้องการของไทยอย่างลงตัว พร้อมขับเคลื่อนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และส่งเสริมการลงทุนในทิศทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว