เลย - ชวนเที่ยว 5 จังหวัดอีสานริมโขง แวะ ชิม ชอป ชม คาราวานรถยนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางริมแม่น้ำโขง เชื่อมโยงการท่องเที่ยว ดึงนักท่องเที่ยวจีน/ญี่ปุ่น/เกาหลี ที่มีกว่า 800 คนต่อวันเข้ามาเที่ยวไทยใน 5 จังหวัดริมโขง คาดดึงเงินเข้าไทยได้หลายร้อยล้านบาทในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานวัฒนธรรมวัดท่าคก ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย นายประยูร อรัญรุท รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมกิจกรรมแถลงข่าว โครงการคาราวานรถยนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยวตามเส้นทางท่องเที่ยวริมแม่น้ำโขง "แวะ ชิม ชอป ชม" ชมแหล่งท่องเที่ยวตามลำน้ำโขง สัมผัสวัฒนธรรม ดูวิถีชีวิตชุมชนริมโขง ตลอดเส้นทาง 5 จังหวัดริมโขง มีนางสาวรุจภา วีสเพ็ญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเลย, นายภควัลรัตน์ มณีสร้อย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองคาย, นายจริยาทร สูหู่ ผอ.ททท.สำนักงานเลย, นายศราวุธ กลันทะกะสุวรรณ รองผู้จัดการ อพท.เลย และว่าที่ ร.ต.กฤชาณัฐฏ์ กุลรัชชหิรัญ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเลย ร่วมแถลงข่าว
โครงการคาราวานรถยนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยว จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 3-6 กรกฎาคม 2568 ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดเขตลุ่มน้ำโขงประกอบด้วย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม และมุกดาหาร มุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น ร่วมกิจกรรมกับชุมชน และเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ที่มีความหลากหลายและมีคุณค่าอย่างแท้จริง
โครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ หากยังขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน และเป็นต้นแบบของการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงระหว่างธรรมชาติ วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ผ่านมุมมองการพัฒนาที่ยั่งยืน และครอบคลุมทุกมิติ และเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนสำคัญในการยกระดับศักยภาพของการท่องเที่ยวในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวใน 5 จังหวัดริมโขงไม่น้อยกว่า 200 คน ใช้รถตู้กว่า 20 คัน เข้าร่วมโครงการคาราวานรถยนต์ส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะมีผู้ประกอบการแต่ละจังหวัดแนะนำส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่นในแต่ละจังหวัดที่ติดลำน้ำโขง
ว่าที่ ร.ต.กฤชาณัฐฏ์ กุลรัชชหิรัญ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเลย กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำเส้นทางท่องเที่ยวแบบนี้ เป็นการเชื่อมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยเน้นการเชื่อมโยงกับประเทศจีน ลาว เกาหลี ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ การเดินทางครั้งนี้นำไปสู่การรู้จักกับผู้ประกอบการจากหลายประเทศ และเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินตรงจากจีนมายัง สปป.ลาว เมืองวังเวียง หลวงพระบาง ที่มี 4 เที่ยวบินตรงต่อวัน
หรือมีนักท่องเที่ยวจีนเกาหลี ญี่ปุ่น เข้ามาประมาณ 800 คนต่อวัน ซึ่งหากสามารถดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาเที่ยวเชื่อมโยงผ่าน 5 จังหวัดในประเทศไทย ตามโครงการนี้จะเป็นสิ่งที่ดีต่อประเทศไทยในลุ่มน้ำโขงอีสาน การท่องเที่ยวในเส้นทางใหม่นี้จะเริ่มต้นด้วยการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติวัฒนธรรมใน 5 จังหวัดตามแนวริมแม่น้ำโขง
การท่องเที่ยวแนวนี้จะสามารถดึงนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยที่เดินทางมายัง สปป.ลาว อยู่แล้ว ซึ่งในบ้านเรามีการท่องที่ยว เช่น การเดินป่า และเล่นน้ำธรรมชาติ พักผ่อนเหมือนกับเมืองวังเวียงใน สปป.ลาว โดยทราบว่าเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ สปป.ลาวนั้นจัดแพกเกจท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวจีนและเกาหลี ญี่ปุ่นโดยราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทต่อคน สำหรับท่องเที่ยวในลาว 4-5 วัน
หากโครงการนี้สำเร็จและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังจากประเทศเพื่อนบ้านได้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่พื้นที่นับหลายร้อยล้านบาทในอนาคต ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ทั้ง 5 จังหวัดได้มาก