พิษณุโลก - เปิดแล้วงานท่องเที่ยวเกษตรชุมชนตำบลชมพู-เนินมะปราง เมืองสองแคว..ชาวสวนขนทุเรียนบ้านรักไทยเปิดแผงกันพรึ่บ เต็มทั้งริมทาง-ลานกลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตรฯ ทั้งหมอนทอง-หลง/หลินลับแลบ้านรักไทย ราคาร่วงเหลือกิโลฯ ไม่ถึงร้อยก็มี-เกรดพรีเมียมไม่เกิน 120 จากปีกลายเคยขายได้ 300-400 บาท
นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมนายกเหล่ากาชาดฯ, นายพงษ์มนู ทองหนัก ส.ส.พิษณุโลกเขต 3, นายบุญชนะ คลองภูเขียว นายกอบต.ชมพู พร้อมหน่วยราชการ ภาคเอกชนและชาวบ้าน ร่วมจัดงาน "ผลไม้ของดีตำบลชมพู" ประจำปี 2568 ณ ลานกลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านรักไทย ต.ชมพู อ.เนินมะปราง 2 วัน 2 คืน ระหว่าง 14-15 มิ.ย. 68
โดยชาวบ้านได้จัดขบวนรถแห่ผลไม้หลากชนิด เน้นไปที่ทุเรียนสายพันธุ์หลงหลิน หมอนทอง พวงมณี ฯลฯ ซึ่งเป็นผลผลิตจากผืนดินที่อุดมด้วยแร่ธาตุของบ้านรักไทยแท้ๆ เข้าร่วมงาน-เปิดแผง ท่ามกลางประชาชนเดินทางมาเที่ยวและเลือกซื้อทุเรียนคักคัก เนื่องจากราคาถูกกว่าช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ ทุเรียนหลงลับแลเดิม 150-180 บาท ปัจจุบันเหลือ 100-120 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกล่าวชื่นชมกับความสามัคคีของชาวบ้านที่ร่วมกันจัดงานของดีบ้านรักไทยตำบลชมพู ซึ่งผลผลิตทุเรียนกำลังออกสู่ตลาด สองฝั่งถนนทางเข้าบ้านรักไทยก็มีสวนทุเรียนและแผงร้านค้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมและซื้อหาเป็นของฝากได้ เพราะทุเรียนหลงลับแลบ้านรักไทยจะมีลักษณะเด่น คือ กรอบนอก นุ่มใน เนื้อฉีกๆ กลิ่น ไม่ฉุนมาก ราคาไม่แพง แถมรสชาติดี
นายบุญชนะ คลองภูเขียว นายกอบต.ชมพู เปิดเผยว่า ทุเรียนถือเป็นผลไม้ของดีตำบลชมพูไปแล้ว ด้วยพื้นที่เหมาะสม อยู่บนเขาสูง 450 เมตร อากาศเย็น ปริมาณน้ำฝนมาก ทว่า ปีนี้ราคาทุเรียนไม่ดี ด้วยเหตุผลทางการตลาด ชาวบ้านเดือดร้อนขายไม่ได้ราคา จึงต้องจัดงานยิ่งใหญ่กระตุ้น มีกิจกรรมแข่งกินทุเรียน ประกวดทุเรียน กลางคืนยังมีการประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง รำวงย้อนยุคด้วย
“งานนี้มีเจ้าของสวนทุเรียนร่วมออกบูททุเรียนกว่า 20 ราย ก็หวังดึงดูดให้คนพิษณุโลกและใกล้เคียงมาเที่ยวและเลือกซื้อทุเรียนกลับไป ซึ่งก็พบว่าคึกคักดี มีเงินสะพัดถึงมือชาวบ้าน จากตั้งกติกาไว้ว่า ขายทุเรียนหมอนทอง (คัดเกรด-พรีเมียม) ราคาต้องไม่เกิน 120 บาทต่อกิโลกรัม แต่ดูแล้วชาวบ้านขนทุเรียนมาขายต่ำกว่าร้อยบาทเพียบ ก็เชิญชวนมาเที่ยวบ้านรักไทยเลือกซื้อผลผลิตทุเรียนคุณภาพจากชาวบ้านแท้ๆ”
น.ส.สมพร คำอุดม อยู่บ้านเลขที่ 55/3 หมู่ 7 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง พิษณุโลก เปิดเผยว่า คนปลูกทุเรียนไม่มีเวลาขาย บางรายสวนฯ อยู่ไกล ตนจึงไปเหมาทุเรียนมาขาย หากไม่พอก็ต้องไปลุยซื้อถึงสวนมาขายริมถนน ซึ่งสามารถรวบรวมทุเรียนได้ทุกสายพันธุ์ เริ่มต้นราคา 89 บาท ซึ่งเป็นทุเรียนสุกคาต้น รับประทานวันนี้ ราคาจึงไม่แพง-จับต้องได้
ส่วนทุเรียนตัดจากต้นก็ถูกมาก เช่น ทุเรียนหมอนทองราคา 100 บาทต่อกิโลกรัม ทุเรียนหลงฯ ราคา 75 -150 บาทต่อกิโลกรัม หากเทียบกับปีที่ผ่านมาราคาหลงสูงถึง 300 บาท ส่วนทุเรียนหลินลับแลเคยขาย 300-400 บาท ปัจจุบันเหลืออยู่ 200 บาทเท่านั้น
ยืนยันว่า ณ วันนี้ปริมาณผลผลิตทุเรียนบ้านรักไทยยังไม่หมด ยังไม่แก่พอตัดมาจำหน่าย คาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดในอีก 1-2 เดือน ทำให้นักท่องเที่ยวยังพอมีเวลาเดินทางมาท่องเที่ยวบ้านรักไทยได้อีก สามารถเลือกซื้อทุเรียนของชาวบ้านกำลังทยอยออกจากสวนสู่ผู้บริโภคโดยตรง
