สุรินทร์ - ชาวบ้านชายแดนสุรินทร์ลุ้นรอฟังผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ขณะตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเงียบเหงามาก พ่อค้าแม่ค้าชาวเขมรกว่า 70% ปิดร้านเผ่นกลับประเทศกัมพูชา รอดูสถานการณ์หลังประชุม JBC เช่นกัน
วันนี้ (14 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 3 กิโลเมตร พบว่าร้านค้าของชาวกัมพูชาได้ปิดร้านกลับประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ไม่ต่ำกว่า 70% แต่ยังคงมีพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยและกัมพูชาบางส่วนที่ยังคงเปิดร้านค้าขายกันตามปกติ ซึ่งชาวกัมพูชาที่ปิดร้านค้าทราบข้อมูลว่าทางการกัมพูชาให้กลับประเทศตั้งแต่เมื่อวานนี้ คาดว่าน่าจะกลับไปรอดูท่าทีของการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา ในวันนี้ว่า หลังการประชุมจะเป็นไปในทิศทางใด
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาต่างจับกลุ่มนั่งวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาถึงการประชุม JBC ที่มีขึ้นในวันนี้ ส่วนใหญ่อยากให้ผลประชุมออกมาคลี่คลายและเป็นไปในทิศทางที่ดี ไม่ต่างจากชาวกัมพูชาที่มาค้าขายที่ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน
ส่วนร้านค้าขายสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆของคนไทยได้รับผลกระทบบางส่วน เนื่องจากยังมีคนไทยที่มาช่วยอุดหนุนกันตามปกติ แต่อาจจะเงียบเหงาลงบ้าง โดยพ่อค้าเขียงหมู ตรงข้ามตลาดชายแดนช่องจอม นายสุพรรณ รักษา อายุ 54 ปี กล่าวว่า ตลาดอาจจะเงียบเหงาลงบ้างนิดหน่อย แต่การค้าขายยังขายได้ให้กับคนไทย ส่วนการประชุมไทย-กัมพูชาในวันนี้ คาดหวังว่าจะออกไปในทิศทางที่ดี ไม่อยากให้มีปัญหาขัดแย้งกัน อยากให้สองประเทศอยู่กันแบบบ้านพี่เมืองน้อง อยู่อย่างสงบสุข เพราะถ้าเกิดสงครามชาวกัมพูชาและชาวไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนก็จะเป็นผู้ที่เดือดร้อน เพราะต้องทำมาหากิน
