หนองคาย-ทหารพรานหนองคาย สนธิกำลัง จับชายขนยาบ้ากว่า 5,480,000 เม็ด คาดลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เตรียมกระจายสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ผู้ว่าฯหนองคาย เผยเร่งปราบปรามยาเสพติดทุกรอยต่อไร้พรมแดน
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่กองร้อยทหารพรานที่ 2110 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 ต.บ้านม่วง อ.สังคม จ.หนองคาย นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พลตรีสุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, นาวาเอกวิศิษฐ์พงศ์ เจริญวิชยเดช ผบ.นรข.เขตหนองคาย, พ.อ.ชูชาติ นนทบุตร ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พ.ต.อ.มนัส พูลอินทร์ ผกก.สภ.ศรีเชียงใหม่, พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังษิพราหมณกุล รองผกก.ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย,
นายภาคิน เทียบคำ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรหนองคาย, ร้อยเอกยุทธนา สีชัย ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน พร้อมกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคดียาเสพติด ผู้ต้องหาชาย 1 ราย ของกลางยาบ้า 13 กระสอบ ประมาณ 5,480,000 เม็ด, รถยนต์กระบะมิตซูบิชิ 4 ประตู ทะเบียน จจ 3449 ชลบุรี
การจับกุมในครั้งนี้ร้อยเอกยุทธนา สีชัย ผู้บังคับกองร้อยทหารพราน ได้รับการประสานงานจากกำลังทหารในพื้นที่ อ.ปากชม จ.เลย ว่ามีผู้ต้องสงสัยขนยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เลย มุ่งหน้าเข้าตัว อ.สังคม จ.หนองคาย ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกัน ในเวลาประมาณ 01.50 น. วันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงได้สนธิกำลังหน่วยงานข้างเคียงจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จนกระทั่งพบรถต้องสงสัยขับมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอสังคม จึงได้ติดตามไป จนพบว่ามีการจอดรถอยู่ริมถนนบ้านตาดเสริม ต.บ้านม่วง อ.สังคม เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ
ชายคนหนึ่งพยายามจะเปิดประตูรถกระบะหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ ตรวจสอบภายในรถกระบะ พบกระสอบสีดำ 13 กระสอบ อัดแน่นอยู่ในห้องผู้โดยสาร จึงตรวจยึดไว้มาทำการตรวจสอบก็พบว่าเป็นกระสอบบรรจุยาบ้า รวมประมาณ 5,480,000 เม็ด คาดว่ายาบ้าทั้งหมดนี้จะถูกนำเข้าพื้นที่ตอนในของประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดผลกระทบต่อปัญหาสังคมเป็นวงกว้าง ซึ่งหลังจากแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้ส่งมอบของกลางและผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน สภ.นางิ้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จ.หนองคาย ได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัดข้างเคียงและประเทศเพื่อนบ้านมาโดยตลอด จนนำมาซึ่งการจับกุมคดียาเสพติดได้หลายครั้ง เป็นการดำเนินการอย่างไร้รอยต่อ ทุกฝ่ายบูรณาการร่วมกันจนมีผลสัมฤทธิ์ที่ดีขึ้น และมุ่งเน้นปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง
