เชียงใหม่ – มิจฉาชีพสุดเลว ฉวยโอกาสซ้ำเติมสาวป่วยมะเร็งสู้ชีวิตดิ้นรนเปิดท้ายขายกาแฟหาเงินรักษาตัว ตีเนียนเป็นผู้ใจบุญโทรหาในช่วงเช้ามืด อ้างว่าโอนเงินบริจาคไปให้เกินจำนวนที่ตั้งใจ แถมแนบสลิปปลอมเป็นหลักฐาน ทำให้สาวผู้เสียหายที่งัวเงียตื่นและมึนฤทธิ์ยา หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ
จากกรณีโซเชียลมีเดียโพสต์ขอความช่วยเหลือช่วยอุดหนุนนางสาวนิรุชา จันทร์ทอง หรือ “นิชา” อายุ 41 ปี อดีตพนักงานบริษัทที่ป่วยเป็นมะเร็งและโรคซึมเศร้า รวมทั้งโรคแพนิค จนต้องถูกให้ออกจากงานที่กรุงเทพฯ แล้วย้ายมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับต้องหารายได้เพียงลำพังเพื่อรักษาตัวและเลี้ยงดูครอบครัว โดยจะขับรถยนต์ไฟฟ้าไปจอดตามจุดต่างๆ เพื่อเปิดท้ายขายกาแฟ รวมทั้งเครื่องดื่มและขนมเล็กๆน้อยๆ ซึ่งต่อมามีผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือให้เป็นจำนวนมาก ทั้งช่วยอุดหนุนและโอนเงินให้ รวมทั้งล่าสุดเจ้าของร้านกาแฟชื่อดังให้การช่วยเหลือสร้างแบรนด์น้ำส้มคั้นบรรจุขวด พร้อมเปิดพื้นที่ฟรีให้ตั้งร้านขาย
อย่างไรก็ตามพบว่าในขณะที่ผู้คนต่างแสดงความเห็นใจและหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับ “นิชา” แต่ปรากฏว่ากลับมีมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสหลอกลวงให้ “นิชา” ต้องสูญเสียเงินที่ต้องการเก็บรวบรวมเพื่อนำไปใช้รักษาตัวและเลี้ยงดูครอบครัว โดยมิจฉาชีพแอบอ้างว่าตั้งใจโอนเงินให้เพื่อช่วยเหลือ “นิชา” จำนวน 100 บาท แต่โอนผิดพลาดเป็น 1,000 บาท พร้อมแนบหลักฐานเป็นสลิปที่ปลอมแปลงขึ้นมาแล้วส่งให้ “นิชา” ดู และหลงเชื่อ พร้อมกับโอนเงินไปให้มิจฉาชีพจำนวน 900 บาท ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เลวร้ายและซ้ำเติมผู้ที่กำลังเผชิญปัญหาชีวิต แต่ยังคงดิ้นรนช่วยเหลือตัวเอง
ทั้งนี้ “นิชา” เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ทางเจ้าของร้านกาแฟที่ให้การช่วยเหลือได้ช่วยเปิดขายกาแฟทางออนไลน์และมีผู้ช่วยโอนเงินบริจาคให้ตัวเองนำไปใช้เป็นค่ารักษาตัว ซึ่งเมื่อได้ครบจำนวนประมาณหมื่นกว่าบาทแล้วได้ปิดรับบริจาคไป อย่างไรก็ตามต่อมาช่วงเช้ามืดวันที่ 12 มิ.ย.68 เวลาประมาณ 04.00 น. ได้มีคนติดต่อมาอ้างว่าโอนเงินบริจาคมาให้ตัวเอง โดยตั้งใจว่าจะโอนให้ 100 บาท แต่โอนผิดเป็น 1,000 บาท พร้อมแนบสลิปการโอนเป็นหลักฐานให้ดูด้วย
แต่เนื่องจากเป็นช่วงเช้ามืดที่ตัวเองยังงัวเงียเนื่องจากเพิ่งตื่นนอนและฤทธิ์ยา จึงไม่ทันได้สังเกตอย่างละเอียดรอบคอบ ประกอบกับเกรงว่าอีกฝ่ายอาจจะเดือดร้อน จึงรีบโอนเงินไปให้จำนวน 900 บาท ทางคิวอาร์โค้ดที่อีกฝ่ายส่งมาให้ และพบว่าเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีทรูมันนี่ ที่ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับ แต่ตัวเองไม่ทันรู้สึกผิดสังเกตุ และนอนหลับต่อ จนกระทั่งเมื่อตื่นนอนขึ้นมาในช่วงเช้า จึงได้ตรวจสอบพบว่าไม่เคยมีการโอนเงินเข้ามา 1,000 บาท ตามที่อีกฝ่ายแจ้ง และตรวจสอบพบว่าสลิปที่อีกฝ่ายแนบมาเป็นหลักฐานนั้น เป็นการนำสลิปของผู้ใจบุญอีกคนหนึ่งมาแก้ไขปลอมแปลง จึงทราบว่าตัวเองถูกมิจฉาชีพหลอกลวง ซึ่งรู้สึกเสียใจและเศร้าใจอย่างมาก เพราะเหมือนเป็นการซ้ำเติมกัน อย่างไรก็ตามจากนี้ตัวเองจะต้องระวังตัวให้มากขึ้น.