สุรินทร์ - ชาวกัมพูชาจำนวนมากแห่ข้ามแดนหลังเปิดประตูด่านผ่านแดนช่องจอมวันที่สองตามมาตรการลดวันเปิดด่านตอบโต้กัมพูชากรณีพิพาทพื้นที่ชายแดนช่องบก รถบรรทุกสินค้าขนมันสำปะหลังต่อคิวนับร้อยคัน ขณะเจ้าหน้าที่ไทยเตรียมพร้อมต้อนรับ “นายกฯ อิ๊งค์” มาตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนสุรินทร์
วันนี้ (11 มิ.ย. 68) เวลา 09.00 น. ที่่หน้าด่านกัมพูชาได้ทำการเปิดกุญแจปลดล็อกแผงกั้นเหล็กลวดหนามที่อยู่หน้าประตูด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝั่งโอร์เสม็ด กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ไทยได้เปิดประตูด่านฝั่งไทยตั้งแต่เวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา ให้สามารถข้ามแดนเข้า-ออกตามปกติ เป็นวันที่สองตามมาตรการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดด่าน ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการตอบโต้กัมพูชา กรณีปัญหาพิพาทพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา จนเกิดเหตุปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่ายที่บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี โดยกำหนดเปิดสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันจันทร์ พุธ และ ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ถึง 15.00 น.
หลังจากกัมพูชาเปิดแผงเหล็กกั้นพบว่า ชาวกัมพูชาที่มารออยู่หน้าประตูฝั่งไทยเพื่อข้ามแดนไปยังกัมพูชาทยอยขนสิ่งของข้ามแดนกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสิ่งของอุปโภคบริโภค ขณะที่รถบรรทุกนับ 100 คันที่มาจอดรอฝั่งไทยอย่างยาวเหยียดก็ทยอยส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สุรินทร์ ตรวจเอกสารเพื่อข้ามแดนไปบรรทุกมันสำปะหลังเส้นและหัวสดเพื่อบรรทุกกลับเข้ามาฝั่งไทย หลังจากด่านเปิด-ปิดสลับวันทำให้รถบรรทุกมันฯ ที่มารอคิวสะสมเป็นจำนวนมากดังกล่าว ไม่ต่างกับประชาชนชาวกัมพูชาที่ขับรถยนต์ส่วนตัวข้ามแดนกลับประเทศ เนื่องจากต้องกลับให้ทันเวลาที่วีซ่าของไทยที่กำหนดให้สามารถอยู่ในประเทศได้ 7 วัน
ขณะเดียวกันชาวกัมพูชาที่จะข้ามแดนมาซื้อ-ขายสินค้าที่ไทยก็รอข้ามแดนเข้ามาฝั่งไทยจำนวนมากเช่นกัน โดยมีทหารฐานปฏิบัติกลางที่คอยคัดกรองบุคคลและยานพาหนะเข้าออกอีกชั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น.ถึงเวลา 13.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจทหาร โดยเป็นประธานประชุมประเด็นความมั่นคง รวมถึงมาตรการการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จากนั้นจะเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการกลางก่อนถึงหน้าด่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่กำลังพล กองกำลังสุรนารี และรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับกำลังพล ก่อนจะเดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม เพื่อพบปะประชาชนและพูดคุยถึงสถานการณ์ปัจจุบันในพื้นที่ก่อนเดินทางกลับ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้มีการเตรียมเก้าอี้และกางเต็นท์จัดสถานที่เพื่อต้อนรับนายกรัฐมนตรีและประชาชนที่จะเดินทางเข้ามา โดยมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่เตรียมพร้อม และตรวจตราอย่างเข้มงวด รวมทั้งยังนำสุนัขทหารมาช่วยตรวจด้วย ท่ามกลางฝนตกโปรยปรายตั้งแต่เช้าและคาดว่าจะตกตลอดทั้งวัน
