อุดรธานี - ญาติร่ำไห้ แรงงานอิสราเอลผูกคอตัวเองตายทั้งที่ไม่มีวี่แวว พ่อตาเผยเพิ่งถูกหวย 2 หมื่น ไม่เชื่อลูกเขยจะคิดสั้น ด้านย่าและเมียสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต วอนสถานทูตอิสราเอลกับไทยช่วยตรวจสอบไขปริศนาและส่งร่างกลับมาบ้านเกิด ขณะที่เจ้าหน้าที่จัดหางานและประกันสังคมรุดสอบถามช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิ
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Sasikan Seesukhu” โพสต์รูปภาพและระบุข้อความเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า "รอดมาเบิ้ดตั้งแต่สงคราม กระดูกซี่โครงหัก รถล้ม ตาเกือบบอด กะรอดมาเบิ้ด ไสว่าอ้ายเก่งกะด้อบ่ตายหนีจากง่ายดอก ไสว่าจะกลับมาหา ไสว่าจะกลับมายุนำ ไสว่าจะลงทุนไห้ขายของอยุ่บ้านถ้า ไสว่าคิดฮอดลูกชาย แล้วหนึ่งกับบักหล่าจะอยุ่จั่งใด เป็นหยังคือถิ่มกันไปง่ายคักแท้อาม บ่อยากไห้กลับมาหาแบบนี้ โอ้ยน้ออามเอ่ยใจสิขาดแล้ว สั่นไปหมด"
ซึ่งโพสต์นี้ผู้โพสต์บอกว่าสามีชาวอุดรธานีที่ทำงานที่ประเทศอิสราเอลเสียชีวิต ผูกคอตาย ไปขายแรงงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังมีการแชร์คลิปต่างๆของเพื่อนสามีเพื่อไว้อาลัย ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “หัวใจ ส่อหล่อ” เพื่อนร่วมงาน ได้โพสต์รูปภาพพิธีส่งวิญญาณอาม โดยในภาพมีเพื่อนร่วมงานนิมนต์พระสงฆ์วัดไทยที่อิสราเอล 1 รูป มาประกอบพิธีตามความเชื่อ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอธิน สีเหลือง หรืออาร์ม อายุ 27 ปี ชาว จ.อุดรธานี ขณะที่เฟซบุ๊กชื่อ “บ่าวต้น โคราชพาลุย” ได้โพสต์คลิปวิดีโอสุดท้ายที่อาร์มทำอาหารกินกันกับเพื่อนๆ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวพร้อมเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดและเจ้าหน้าที่ประกันสังคมจังหวัดเดินทางลงพื้นที่ไปยังภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตที่หมู่บ้านทุ่งสว่าง ต.พังงู อ.หนองหาน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและหาทางช่วยเหลือเยียวยาเรื่องสิทธิประโยชน์ตามระเบียบทางราชการ โดยพบกับนางสุวรรณี สีเหลือง อายุ 76 ปี ย่าของนายอาร์ม และญาติอีก 2 คน อยู่ภายในบ้าน
จากข้อมูลทางราชการพบว่า นายอธิน สีเหลือง อายุ 27 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี เดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล ในตำแหน่งคนงานเกษตร สัญญาจ้าง 2 ปี กับนายจ้าง GENESIS PRIEMIUM ที่อยู่ SDAI TRUMUT NORTHERN (HAZAFON) SDEI TRUMOT STATE OF ISRAEL STATE OF ISRAEL เดินทางเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ถือบัตรสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เลขที่ E10/00187/10052566 สถานะอยู่ในความคุ้มครอง
นางสุวรรณี สีเหลือง อายุ 76 ปี ย่าของอาร์ม เล่าทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่พ่อแม่เขาแยกทางกัน ตนก็เลี้ยงดูอาร์มมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ แม่เป็นคนลาวหนีเขาไปตั้งแต่เล็กๆ ส่วนพ่อนั้นทำงานที่ระยอง ตอนอาร์มทำงานที่ไทย เขาเป็นคนขยัน และไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ 2 ปีกว่า ทำงานเกี่ยวกับเกษตร
ก่อนเขาไปต่างประเทศเขาบอกกับย่าว่า “รออาร์มกลับมาบ้านนะย่า อย่าเพิ่งตายก่อนนะ แต่สิ่งที่อาร์มพูดนั้นกลับกัน อาร์มกลับตายก่อนย่า” อาร์มทำงานที่อิสราเอลเขาไม่เคยขาดการติดต่อเลย จะโทรศัพท์มาหาอยู่ประจำ และส่งเงินกลับมาให้ย่าดูแลครอบครัวใช้หนี้ใช้สินที่ตัวเองกู้ยืมไปทำงาน
ต่อมาวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมาอาร์มก็โทรศัพท์กลับมาหาบอกว่าปีหน้าจะกลับมา วันที่ 5 จะส่งเงินมาให้ยายซื้อรถจักรยานปั่นไปวัด แต่อาร์มก็เสียชีวิตเสียก่อน การเสียชีวิตของอาร์มตนรู้แล้วว่าหลานผูกคอตาย ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อว่าหลานจะคิดสั้นเพราะว่าตนเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต หลานไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยที่จะต้องน้อยใจคิดสั้นแบบนั้น ปัญหาทางบ้านทางครอบครัวก็ไม่มี ตอนนี้ศพของหลานอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากอะไร หากศพหลานกลับมาบ้าน “ตนจะเอาบอนทาปากเพราะตามความเชื่อคนอีสานหากเอาใบบอนทาปากศพดวงวิญญาณมาบอกทุกอย่างและหากมีคนกระทำให้เขาตายเขาก็จะสารภาพเอง
นางสาวศศิกานต์ ศรีสุขา อายุ 22 ปี หรือหนึ่ง บอกว่า ตนกับอาร์มเป็นผัวเมียกันแต่ไม่จดทะเบียนสมรส มีลูกผู้ชาย 1 คน อายุ 5 ขวบ ก่อนอาร์มไปทำงานอิสราเอลเขาก็ทำงานรับจ้างทั่วไปที่ประเทศไทย แต่เขาอยากเห็นครอบครัวมีกิน มีใช้ จึงเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล และอยากให้ครอบครัวของเราเป็นเหมือนครอบครัวของคนอื่น เพราะอาร์มโตมาจากครอบครัวเด็กกำพร้า อาร์มอยากให้ลูกมีทุกอย่างที่ตัวเองไม่เคยมี อาร์มเป็นคนอารมณ์ดีร่าเริง ยิ่งอยู่กับเพื่อนยิ่งสนุกสนาน
ก่อนที่จะรู้ข่าวว่าอาร์มผูกคอตาย 1 วัน ก่อนหน้าเวลาประมาณ 16.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ตนโทร.ไปหาบอกว่าทำไมวันนี้ไม่เห็นโทร.มา ปกติจะโทร.มาตอนเที่ยง แต่อาร์มก็ตอบกลับมาว่าวันนี้เหนื่อยนอนหลับจึงไม่ได้โทร.กลับ หลังจากพูดคุยกันเสร็จก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก โทร.ไปก็ไม่รับ โทร.ไปถามเพื่อนร่วมงานให้ช่วยบอกอาร์มช่วยรับโทรศัพท์ด้วย แต่เพื่อนร่วมงานก็บอกว่าออกมาทำงาน อาร์มนอนหลับอยู่ที่ห้อง เวลา 22.00 น.โทร.ไปใหม่ เพื่อนเขาก็บอกว่าอาร์มยังไม่เลิกงาน ต่อมา 23.00 น. เพื่อนร่วมงานก็โทร.กลับมาบอกว่าอาร์มเสียชีวิตแล้ว ตอนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก
ตนกับอาร์มไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเรื่องทะเลาะรุนแรง เราแค่ทะเลาะเรื่องเล็กๆ แต่ก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม ข่าวลือที่บอกว่าตนทะเลาะกับอาร์มและทำให้อาร์มคิดสั้นยืนยันไม่จริง ส่วนตัวก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมอาร์มถึงคิดสั้นแบบนั้น “อนาคตเราสองคนวางแผนไว้ว่าปีหน้าเราจะมีพิธีแต่งงานกัน แต่งงานเสร็จก็จะกลับไปทำงานที่ต่างประเทศอีกสัก 2 ปี เก็บเงินให้ได้สักก้อน แล้วกลับมาใช้ชีวิตอย่างครอบครัวแบบมีความสุขด้วยกัน” หากดวงวิญญาณรับรู้ อยากจะบอกว่ามีอะไรในใจทำไมไม่พูดไม่บอกให้ฟัง
ด้านนายสุริยา ศรีสุขา อายุ 55 ปี พ่อตา เล่าว่า ตอนรู้ข่าวกำลังนอนหลับได้ยินเสียงมีคนมาเรียกที่หู เสียงคุ้นๆ คล้ายกับเสียงอาร์มร้องเรียกบอกว่าพ่อ ตนก็สะดุ้งตื่น แล้วลูกสาวก็บอกว่าอาร์มผูกคอตายแล้ว ส่วนตัวพ่อคิดว่าสาเหตุอาจจะมีความขัดแย้งในที่ทำงาน และตนไม่คิดว่าลูกเขยจะคิดสั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่อาร์มผูกคอเสียชีวิตนั้นเนื่องจากทะเลาะกับภรรยาแล้วน้อยใจ จึงใช้เชือกผูกคอพ่อมีความเห็นอย่างไร นายสุริยาบอกว่า ตนในฐานะพ่อไม่เชื่อแน่นอน เพราะว่าลูกสาวคนนี้อยู่กับตนตลอด สำหรับลูกเขยคนนี้วาดฝันอนาคตไว้ว่าหากกลับมาจากต่างประเทศก็จะเปิดร้านขายของชำและออกรถสักคัน ล่าสุดเขาก็เพิ่งโชคดีถูกหวยไทยได้รางวัล 2 หมื่นบาท