xs
xsm
sm
md
lg

เวทีหารือการค้ากระทรวงพาณิชย์ “พิชัย” ดันอุดรธานีศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี - “พิชัย” รมว.พาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์หารือประธานหอการค้าและนักธุรกิจใน จ.อุดรธานี มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน ปั้นอุดรฯ เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ หารือส่งเสริมการค้ากับภาคเอกชน จ.อุดรธานี
เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายวรวงศ์ รามางกูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์, นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์, ร.ต.จักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์, น.ส.จิตติมา ศรีถาพร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์, นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน, นายกองตรี พิสิษฏ์ พิพัฒน์วิไลกุล คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักธุรกิจเอกชนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อรับฟังข้อเสนอหารือแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจ ที่ร้านอาหารครัวคุณนิด ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีความมุ่งมั่นผลักดันเศรษฐกิจการค้าของประเทศ โดยเฉพาะในระดับภูมิภาคที่มีศักยภาพสูง เช่น จังหวัดอุดรธานี ที่เป็นประตูสู่ลุ่มน้ำโขง พร้อมย้ำว่าจะเริ่มเจรจาการค้าประเด็นภาษีกับสหรัฐอเมริกาแล้ว เชื่อมั่นว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนั้น ยังมีแผนเจรจาการค้ากับจีน โดยเสนอให้ภาคเอกชนจีนร่วมมือกับผู้ประกอบการไทยอย่างถูกต้อง ไม่ผ่านระบบนอมินี เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน

สำหรับการค้าชายแดนร่วมกับลาว ตนเพิ่งมีโอกาสพบกับนายมะไลทอง กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป.ลาว ในระหว่างเยี่ยมชมงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2025 ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรมและการค้าของลาว เพื่อผลักดันการค้าระหว่างสองประเทศให้บรรลุเป้าหมาย 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2570 โดยไทยได้แสดงความพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุมแผนความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ไทย กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่ง สปป.ลาว ครั้งที่ 8 โดยเร็ว ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ได้จัดร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2561 เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรม

ขณะที่นายกัณฑ์พงศ์ สุระวรรณวิจิตร ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าธุรกิจในพื้นที่ยังคงชะลอตัว และได้เสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การจัดแคมเปญ “ลดทั้งเมือง” ตามแบบโมเดลพาณิชย์ลดราคา การจัดงานเกษตรแฟร์ประจำปี รวมถึงฟื้นฟูตลาดผ้าบ้านนาข่า ภายใต้โครงการ “ตลาดต้องชม” ของกรมการค้าภายใน เพื่อรองรับการจัดงานพืชสวนโลก ปี 2569 ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่เมืองเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังเสนอให้ลดความถี่ในการตรวจสอบการตีตราปั๊มน้ำมัน โดยสำนักงานชั่งตวงวัด จากปีละสองครั้งเหลือปีละครั้ง เพื่อลดภาระต้นทุน รวมถึงข้อเสนอจากกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ให้พิจารณาทบทวนข้อจำกัดการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติที่พำนักถาวรในไทย โดยเฉพาะชาวต่างชาติวัยเกษียณที่ต้องการลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ พ.ท.ดร.วรายุส์ ศรีวัฒนสุวรรณ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี เสนอแผนการลงทุนด้านไบโอเทคโนโลยีโดยใช้ชานอ้อยเป็นวัตถุดิบ พร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกไผ่เพื่อผลิตถ่านชีวภาพ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกรในพื้นที่

ด้านนางอรอนงค์ บุญโต ประธาน MOC Biz Club ไทยแลนด์ เสนอแนวคิดจัดตั้ง “Biz Shop” เชื่อมโยงสินค้าชุมชนจากภูมิภาคต่างๆ และผลักดันเข้าสู่ช่องทางจัดจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรด พร้อมขอการสนับสนุนด้านบัญชี และดิจิทัลแพลตฟอร์มจากกระทรวงพาณิชย์




ภายหลังการรับฟังข้อเสนอแนะจากนักธุรกิจ นายพิชัย กล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ มีแผนคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพเพื่อผลักดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ Thailand Brand รวมถึงพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับ SMEs เพื่อให้สามารถบริหารจัดการด้านบัญชี และเชื่อมโยงเข้าสู่แพลตฟอร์ม e-commerce ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ความสำคัญต่อการส่งออก การลงทุน และการท่องเที่ยว เป็นสามเสาหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันให้จังหวัดอุดรธานีเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเต็มที่” นายพิชัยกล่าว

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การท่องเที่ยวและการเชื่อมโยงสินค้าชุมชนกับแหล่งท่องเที่ยวจะเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในรูปแบบโฮมสเตย์ เพื่อเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น