สุรินทร์ - ด่านผ่านแดนช่องจอมปิดวันแรก ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กาบเชิง เมืองช้าง เงียบกริบ ไร้คนเขมรข้ามแดนมาซื้อของ ขณะ จนท.กัมพูชาพากันมายืนจับกลุ่มพูดคุยถ่ายรูปผ่านประตูเหล็กที่ถูกปิดล็อกกุญแจจากฝั่งไทย พยายามชวน จนท.ไทยร่วมถ่ายรูปหมู่แต่ถูกปฏิเสธ ด้านแม่ค้าโอดทำชาวบ้านยากลำบาก วอน 2 ประเทศเจรจาดีต่อกัน ด้านเขมรตอบโต้ขนโครงเหล็กลวดหนามขนาดใหญ่มาปิดขวางกั้นประตูด่านช่องจอมฝั่งกัมพูชา
วันนี้ (8 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันแรกที่มีการปิดด่านชายแดน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังจากไทยดำเนินมาตรการตอบโต้กัมพูชา โดยกองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) มีหนังสือคำสั่งลงวันที่ 7 มิ.ย. 68 เรื่อง มาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร, จุดผ่อนปรนการค้าในพื้นที่ชายแดน ถึง ผวจ.อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ, สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ตามคำสั่งกองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 กกล.สุรนารี จึงกำหนดมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวร, จุดผ่อนปรนการค้า ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ความรับผิดชอบ
โดยจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มีการปรับเวลาวันในการเปิด-ปิด จากเปิดทุกวัน เป็น 3 วันต่อสัปดาห์ ได้แก่ วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 มิ.ย. 68 เป็นต้นไป ประชาชนทั้งสองประเทศผ่านเข้า-ออกได้ ใช้พาสปอร์ต หรือบอเดอร์พาสเท่านั้น พร้อมจำกัดการส่งออกสินค้ายุทธภัณฑ์ตามกฎหมาย งดการส่งออกสินค้าเพื่อการก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็กเส้น หรือสินค้าอื่นตามดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจ ณ เวลานั้น ยานพาหนะทุกประเภทเข้า-ออกได้ตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ปฏิบัติตามระเบียบและตามหลักสากล โดยผ่านการพิจารณาจาก หน่วยประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำพื้นที่ 2 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังประตูด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา เส้นทางเข้า-ออกด่านไม่พบรถรถยนต์สัญจรไปมาแม้แต่คันเดียว โดยที่ฐานกลาง จนท.ทหารได้มีการปิดกั้นไม่อนุญาตให้ประชาชนผ่าน ขณะที่ด้านหน้าประตูด่าน มีการปิดประตูเหล็กพร้อมทั้งคล้องล็อกกุญแจจากฝั่งไทยอย่างมิดชิดแน่นหนา โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยดูแลพื้นที่
ส่วนฝั่งโอร์เสม็ด กัมพูชา สังเกตเห็นเจ้าหน้าหน้าด่านของกัมพูชาพากันมายืนถ่ายภาพหมู่ พร้อมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไทยและชวนให้บันทึกภาพร่วมกันผ่านประตูเหล็ก แต่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยปฏิเสธ เนื่องจากผู้บังคับบัญชาสั่งการไม่ให้ถ่ายภาพร่วมแต่อย่างใด
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังตลาดโอทอป อบจ.สุรินทร์ ฝั่งไทย ใกล้กับตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ซึ่งเป็นตลาดเช้าที่ขายของสดส่งให้กับชาวไทยและชาวกัมพูชา กลับพบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงาเช่นกันจากปกติมีชาวกัมพูชาข้ามแดนเข้ามาซื้ออาหารสดที่ตลาดเช้าอย่างคึกคักทุกวัน กลับเงียบเหงาไปถนัดตาและมีชาวไทยมาซื้อของบางตา เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์ชายแดน
นางวันดี สกุลพรหม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 บ.ห้วยสิงห์ ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ แม่ค้าขายมันเผาของปิ้ง ที่ตลาดโอทอป อบจ.สุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เงียบมาก ชาวเขมรข้ามมาซื้อไม่ได้เพราะด่านปิด ตนเองเพิ่งมาทราบข่าวด่านปิดที่นี่เมื่อเช้า ไม่รู้จะขายของให้ใคร อยากให้สองประเทศดีกัน ถูกกัน อย่าให้มีปัญหาอะไร อยู่เป็นบ้านพี่เมืองน้อง หากเกิดปัญหา ทำให้ประชาชนทำมาหากินยาก ถ้าเกิดสงครามก็ไม่รู้จะทำมาหากินยังไง อพยพก็ไม่รู้จะไปอยู่ยังไง ถ้ามีสงครามจะสร้างความยากลำบากให้กับชาวบ้านตาดำๆ ทั้งสองประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนบรรยากาศที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมพบว่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา ร้านค้าปิดหลายร้าน เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนกลับไปยังกัมพูชาช่วงเย็นวานนี้ (7 มิ.ย. 68) หลังขายของเสร็จ ต่างไม่สามารถข้ามแดนในช่วงเช้ากลับมาขายของที่ฝั่งไทยได้ เนื่องจากบางคนไม่ทราบว่าด่านผ่านแดนจะปิด ขณะที่ชาวกัมพูชาบางส่วนที่พักอยู่ฝั่งไทยก็ยังสามารถเปิดร้านค้าขายสินค้าได้ตามปกติ ท่ามกลางความกังวลกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่มีความแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. หลังฝั่งไทยได้ปิดด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ทางจนท.หน้าด่านของกัมพูชาได้พากันนำโครงเหล็กลวดหนามขนาดใหญ่บรรทุกรถมาวางปิดกั้นหน้าประตูด่านฝั่งของตัวเอง โดยไม่ทราบเหตุผล คาดว่าเป็นการวางเพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์ตอบโต้ไทย และเพื่อให้ประชาชนชาวกัมพูชาทราบว่าวันนี้ประตูด่านปิด