สุโขทัย - หนุ่มวัย 46 เดินเท้าจากราชบุรีไปเชียงใหม่ เปิดใจเป็นอุทาหรณ์..เคยติดยาหนักทั้งยาบ้า ฝิ่น เฮโรอีน จนเสียลูกเสียเมีย-พ่อตาย แถมต้องขายบ้าน วันนี้อยากเดินให้เหงื่อไหลเป็นเลือดดัดนิสัยตัวเองให้เลิกกัญชาที่ยังเลิกไม่ได้ ระหว่างทางเก็บกระป๋องขายซื้อข้าวกิน อาศัยนอนวัด-ศาลาริมทาง-ป้อมตำรวจ
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชายหนุ่มกำลังเดินกะเผลกอยู่ริมถนนสิงหวัฒน์ ใกล้ๆ วัดเนินกระชาย ต.ป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย โดยมีจุดหมายปลายทางจะเดินเท้าไป จ.เชียงใหม่ จึงได้ไปตรวจสอบและพบชายดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายปิยะ หรือโอ๊ต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี พื้นเพเป็นคน จ.บึงกาฬ แต่ย้ายครอบครัวมาอาศัยอยู่ที่ จ.ราชบุรี นานกว่า 20 ปีแล้ว
นายโอ๊ตบอกว่า สาเหตุที่ต้องเดินเท้าจากราชบุรีไปเชียงใหม่ ระยะทางไกลกว่า 700 กิโลเมตร เป็นเพราะต้องการจะดัดนิสัยตัวเอง และอยากเลิกกัญชาให้ได้เร็วๆ อยู่ที่บ้านห้ามใจไม่ได้ จึงต้องเดินให้มันรู้สำนึก โดยมีเสื้อผ้าติดตัวมาแค่ชุดเดียว ระหว่างทางก็หาเก็บกระป๋องขายซื้อข้าวกิน ค่ำไหนก็นอนนั่น ตามวัดบ้าง ศาลาริมทางบ้าง หรือไม่ก็อาศัยนอนในป้อมตำรวจ
จนมาถึงที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ใช้เวลา 16 วัน รู้สึกเจ็บเท้าเดินไม่ค่อยไหว ก็เลยแวะโรงพยาบาลให้หมอตรวจขอยามากิน ก่อนจะเดินทางต่อเพราะไม่อยากพักค้างให้เสียเวลา กลัวแม่จะรอนาน
ซึ่งถ้าไปถึงเชียงใหม่แล้ว แม่อยากให้ปั่นจักรยานกลับบ้านที่ราชบุรี โดยจะโอนเงินมาให้ซื้อ แต่ตนอยากเดินกลับ ไม่อยากให้เป็นภาระใคร ส่วนคนที่มีใจเอื้อเฟื้อ เจอกันระหว่างทางอยากช่วย ตนขอแค่น้ำดื่ม ได้กินข้าววันละมื้อก็พอแล้ว
“ตลอดชีวิตผมทำผิดมามาก สูญเสียหลายอย่างก็ยังไม่สำนึก ทั้งลูก-เมียและพ่อที่จากไป บ้านต้องขายก็เป็นความผิดของผม ถ้าผมไม่ติดยา ครอบครัวก็คงไม่เป็นแบบนี้ อะไรๆ พ่อก็ทำไว้ให้หมด แต่รักษามันไว้ไม่ได้ เรามีแต่จะทำลาย ผมอยากเดินให้เหงื่อออกจนเป็นเลือดไปเลย อยากลืมชีวิตแย่ๆ และอยากเลิกยาให้ได้” นายโอ๊ตกล่าวทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกผิดต่อครอบครัว
ทั้งนี้ขณะพูดคุยกัน ทางน้องสาวได้โทร.มาหานายโอ๊ตพอดี ผู้สื่อข่าวจึงขออนุญาตคุยสอบถาม เธอยืนยันว่าพี่ชาย (นายโอ๊ต) อยากเลิกยา แต่อยู่บ้านเลิกไม่ได้ เลยอยากลองเดินเท้าข้ามจังหวัดเพื่อหวังจะลืมและเลิกยาได้ เธอกับแม่อายุ 74 ปี เห็นความตั้งใจดีจึงสนับสนุน เป็นกำลังใจให้ พร้อมคอยโทร.สอบถามทุกวัน ถ้าขาดเหลืออะไรก็จะช่วยทุกอย่างที่ทำได้
“หนูดีใจที่พี่เขาคิดได้ ถึงไม่ใช่อะไรที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ดีขึ้นทุกอย่าง คือ ครอบครัวดี สังคมดี มันเป็นวิถีที่เขาเลือก อยากเลิกยาด้วยตัวเอง หนูไม่เคยอาย เพราะรู้ว่าพี่ชายกำลังทำอะไรอยู่ และทุกคนในบ้านจะเป็นกำลังใจให้เสมอ” น้องสาวนายโอ๊ตกล่าวอย่างมีความหวัง
ทั้งนี้ นายโอ๊ตเคยติดยาอย่างหนัก ทั้งยาบ้า ฝิ่น เฮโรอีน แต่ก็เลิกเสพมาได้หลายปีแล้ว ยังเหลือกัญชาที่เสพติดหนัก ดูดทุกวัน วันละหลายครั้ง จนกระทั่งเริ่มคิดได้และอยากเลิก จึงออกจากบ้านเดินเท้าจากบ้านโป่งราชบุรีไปเชียงใหม่ เพื่อหวังเลิกกัญชา และเป็นการชดใช้ความรู้สึกผิดที่ตนเองเป็นต้นเหตุทำให้ต้องขายบ้าน และทำให้พ่อตรอมใจเสียชีวิตด้วย
